babala
สมาชิกโดดเด่น
- สมัครเมื่อ
- 16 กันยายน 2020
- โพสต์
- 131
การอัลตร้าซาวด์ เป็นการตรวจวินิจฉัยโดยใช้คลื่นเสียงกำลังสูงสะท้อนให้เกิดภาพที่จะช่วยในการวินิจฉัยของแพทย์ให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือเจ็บปวด เพราะเป็นการใช้หัวตรวจเคลื่อนไปบนผิวหน้าท้องภายนอกเท่านั้น โดยในการตรวจสุขภาพจะแบ่งอัลตร้าซาวด์ออกเป็น 2 ส่วน คือ การอัลตร้าซาวด์ช่องท้องส่วนบน กับการอัลตร้าซาวด์ช่องท้องส่วนล่าง ซึ่งการตรวจบริเวณช่องท้องส่วนบน และการตรวจบริเวณช่องท้องส่วนล่างนั้นก็จะตรวจดูส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่แตกต่างกันออกไปดังนี้
1.การอัลตร้าซาวด์ช่องท้องส่วนบน
การตรวจบริเวณช่องท้องส่วนบน (Upper abdomen) สามารถดูอวัยวะต่าง ๆ ได้ ดังนี้
- ตับ ม้าม ตับอ่อน ไต เพื่อตรวจดูขนาดของอวัยวะ, ตรวจหาก้อน หรือความผิดปกติแต่กำเนิด, ตรวจดูการเปลี่ยนแปลงเมื่อมีการอักเสบหรือได้รับอุบัติเหตุ
- ถุงน้ำดี ทางเดินน้ำดี เพื่อตรวจหานิ่วในถุงน้ำดี ติ่งเนื้อหรือเนื้องอกของถุงน้ำดี การอักเสบของถุงน้ำดีทั้งแบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรัง, ตรวจหาสาเหตุของตาเหลือง ตัวเหลืองว่าเกิดจากการอุดตันของทางเดินน้ำดีหรือไม่ และการอุดตันนั้นเกิดจากก้อนนิ่วหรือก้อนเนื้องอก
- ตรวจหานิ่วในทางเดินปัสสาวะ
- ตรวจหลอดเลือดของตับ เช่น ในกรณีคนไข้ตับแข็ง
- ตรวจหลอดเลือดของไต เช่น ในกรณีคนไข้ที่มีความดันโลหิตสูง
- ตรวจหลอดเลือดแดงใหญ่ของช่องท้อง (Abdominal aorta) เพื่อดูการตีบ ตัน หรือโป่งพอง
การตรวจบริเวณช่องท้องส่วนล่าง (Lower abdomen)
- ตรวจหานิ่วหรือก้อนเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ ดูปริมาณปัสสาวะที่ค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ หลังจากที่ถ่ายปัสสาวะแล้ว (Residual urine)
- ตรวจมดลูก รังไข่ เพื่อดูขนาด ดูก้อนเนื้องอกหรือถุงน้ำ
- ตรวจต่อมลูกหมาก เพื่อดูลักษณะของต่อมลูกหมากที่โต หรือก้อนเนื้องอก
- ตรวจถุงอัณฑะและลูกอัณฑะ เพื่อดูลักษณะของก้อน การอักเสบ การบิดตัวของลูกอัณฑะ หลอดเลือดที่ผิดปกติ
- ช่วยในการวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบ ซึ่งผลที่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
#อัลตร้าซาวด์ช่องท้อง