การผ่าตัดส่องกล้อง เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทำให้เจ็บน้อยลงและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

pacraa

สมาชิกโดดเด่น
สมัครเมื่อ
7 สิงหาคม 2020
โพสต์
87
cats.jpg



การผ่าตัดส่องกล้อง เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ที่ช่วยแผลผ่าตัดมีขนาดเล็กลง ลดอาการเจ็บแผล และใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิดแผล ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วขึ้น ศัลยแพทย์จะทำการเจาะรูขนาดเล็ก ประมาณ 5-10 มิลลิลิตร ผ่านช่องท้อง หรือผิวหนังใกล้บริเวณอวัยวะที่ต้องการผ่าตัด จำนวน 1-4 รู ขึ้นอยู่กับโรคที่ต้องการรักษา เพื่อสอดท่อที่มีไฟฉายและกล้องขนาดเล็กที่สามารถบันทึกภาพอวัยวะภายในของผู้ป่วยอย่างชัดเจน และส่งมายังจอมอนิเตอร์ เพื่อให้ศัลยแพทย์มองเห็นบริเวณที่ต้องการผ่าตัดได้ชัดเจน ทำให้ผลที่ได้หลังการผ่าตัดมีความเที่ยงตรงและแม่นยำ

ในปัจจุบัน มีโรคทางนรีเวชจำนวนมากที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดมดลูกและรังไข่ ซึ่งวิธีการรักษาที่เราคุ้นเคยและใช้กันมานานคือ การผ่าทางหน้าท้อง เป็นวิธีการผ่าตัดแบบมาตรฐาน แต่อาจทำให้มีแผลใหญ่ขนาด 8-10 เซนติเมตร และต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเป็นเดือน ส่วนอีกวิธีคือการผ่าตัดมดลูกทางช่องคลอด แม้วิธีนี้จะไม่ทำให้เกิดแผลที่หน้าท้อง แต่มีข้อจำกัดมาก แต่ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีทางการแพทย์ เพื่อที่ต้องการจะลดผลข้างเคียงของการรักษา ลดการบาดเจ็บ และช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น จึงได้มีการนำวิธี “การผ่าตัดผ่านกล้อง (MIS)” มาใช้ในการผ่าตัดรักษาโรคทางนรีเวช



การผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
การผ่าตัดผ่านกล้องทางหน้าท้อง (Laparoscopic Surgery) เป็นการใช้กล้องส่องเข้าไปเพื่อการวินิจฉัย และทำการผ่าตัดภายในช่องท้อง

การผ่าตัดผ่านกล้องในโพรงมดลูก (Hysteroscopic Surgery) เป็นการใช้กล้องส่องดูความผิดปกติของโพรงมดลูกโดยผ่านทางปากมดลูกเพื่อการวินิจฉัย และการทำการผ่าตัด

โรคทางนรีเวชที่สามารถรักษาด้วยการผ่าตัดผ่านกล้อง มีดังนี้

เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก (Myoma uteri)

เนื้องอกรังไข่ (Ovarian tumor)

ถุงน้ำรังไข่ (Ovarian cyst)

ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate cyst)

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis)

พังผืดในอุ้งเชิงกราน (Pelvic adhesion)

ตั้งครรภ์นอกมดลูก (Ectopic pregnancy)

ท่อนำไข่อุดตัน (Tubal obstruction)

ตรวจสาเหตุภาวะมีบุตรยาก (Infertility)

เนื้องอกหรือติ่งเนื้อในโพรงมดลูก (Polyp, myoma)

พังผืดในโพรงมดลูก (Uterine synechiae)

ผนังกั้นกลางในโพรงมดลูก (Septate uterus)

การทำหมันหญิง (Tubal Sterilization)

ห่วงอนามัยทะลุเข้าช่องท้อง (Perforated IUD)

การตัดมดลูกออกเนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ (Hysterectomy)

มะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรก (Early stage of Cervical cancer)

มะเร็งรังไข่ในระยะต้น (Early stage of Ovarian cancer)

มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก (Endometrial cancer)

เนื้องอกถุงน้ำรังไข่ ชนิดที่ไม่เป็นมะเร็งหรือช็อกโกแลตซีสต์ที่มีขนาดใหญ่ สามารถผ่าตัดผ่านกล้องทางแผลผ่าตัดเล็กได้

เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก (Myomectomy) ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นเนื้อตัน สามารถผ่าตัดผ่านกล้องด้วยการใช้เครื่องมือชนิดพิเศษที่ตัดย่อยชิ้นเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆ เอาออกผ่านแผลเล็กๆ และสามารถเย็บปิดโดยผ่านกล้อง

รวมทั้งกรณีที่มีข้อบ่งชี้ในการตัดมดลูก (Hysterectomy ) การผ่าตัดผ่านกล้องมีวิธีให้เลือก เช่น ตัดมดลูกออกโดยเหลือปากมดลูกไว้ ตัวมดลูกจะเอาออกโดยเครื่องตัดย่อยชิ้นเนื้อ หรือการตัดมดลูกออกพร้อมปากมดลูกโดยเอาออกทางช่องคลอด เย็บปิดโดยผ่านกล้อง



ข้อดีของการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช
แผลผ่าตัดเล็ก ขนาดประมาณ 0.5-1.0 เซนติเมตร ประมาณ 3-4 แผล

เจ็บแผลน้อยมาก เนื่องจากความบอบช้ำจากการผ่าตัดน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเดิม

พักฟื้นในโรงพยาบาลเพียง 1-2 วัน

ฟื้นตัวไว สามารถกลับไปทำงานหรือกิจวัตรประจำวันได้ภายใน 5-10 วัน

ลดโอกาสเกิดพังผืดจากการผ่าตัด

ลดความเสี่ยงของอาการแทรกซ้อนจากแผลผ่าตัด เช่น แผลอักเสบ แผลติดเชื้อ แผลเป็นหนอง เป็นต้น

ทั้งนี้ในด้านของการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดผ่านกล้องนั้น สามารถทำกิจกรรมเบาๆ ได้ภายใน 3-5 วันหลังการผ่าตัด แต่การออกกำลังกายควรรอให้ผ่านการผ่าตัดไป 1 เดือนก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าสภาพร่างกายกลับมาสมบูรณ์ทั้งภายในและภายนอก ควรหมั่นเช็คอาการตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมาได้ กินอาหารที่มีประโยชน์ งดของที่จะเป็นสาเหตุทำให้แผลภายในอักเสบได้ หากสงสัยหรืออยากทราบข้อมูลการผ่าตัดส่องกล้องเพิ่มเติม สามารถเข้ามาปรึกษาและสอบถามโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลนครธนได้ตลอดเวลาทำการค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.nakornthon.com/Article/Detail/ให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็กด้วยการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช-MIS-3D

#ผ่าตัดส่องกล้อง ,ผ่าตัดผ่านกล้อง ,การผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช







 
ด้านบน ด้านล่าง