babala
สมาชิกโดดเด่น
- สมัครเมื่อ
- 16 กันยายน 2020
- โพสต์
- 131
มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นบริเวณมดลูก ช่องคลอด และช่องปากมดลูก มะเร็งปากมดลูกมักจะเกิดในหญิงอายุประมาณ 50 ปี อีกทั้งผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกจำนวนมากจะเป็นผู้หญิงที่แต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย ตั้งครรภ์เร็ว คลอดบุตรหลายครั้ง และผู้ที่ติดเชื้อไวรัส HPV หรือเชื้อแปปิโลมา ช่วงไม่กี่ปีมานี้ โรคมะเร็งปากมดลูกมีแนวโน้มที่จะเกิดกับหญิงที่อายุยังน้อยได้อีกด้วย เพราะมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เข้ามา โดยปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเป็นมะเร็งปากมดลูกไวขึ้นมีดังต่อไปนี้
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดเป็นมะเร็งปากมดลูก
1.การติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) ติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ การมีคู่นอนหลายคน หรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่มีคู่นอนหลายคน
2.การสูบบุหรี่
3.การรับประทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลายาวนาน
4.การตั้งครรภ์หรือมีบุตรหลายคน
5.ภูมิคุ้มกันไม่ดี
6.การละเลยไม่ไปตรวจภายในเพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
7.ขาดสารอาหารบางชนิด โดยฉพาะผู้หญิงที่รับประทานผักและผลไม้น้อย มีโอกาสเป็นมะเร็งชนิดพบบ่อย รวมทั้งมะเร็งปากมดลูกสูงกว่าคนที่รับประทานผักและผลไม้มาก
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่ปากมดลูกสามารถตรวจพบได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และสามารถทำการรักษาเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปากมดลูกในอนาคตได้ ซึ่งผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 25 - 49 ปี แนะนำให้ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุก 3 ปี และผู้หญิงที่อายุ 50 - 64 ปี แนะนำในตรวจคัดกรองทุก 5 ปี สำหรับผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป แนะนำให้ตรวจคัดกรองเฉพาะผู้ที่ไม่ได้ตรวจคัดกรองเลยตั้งแต่อายุ 50 ปี หรือให้คัดกรองผู้ที่มีผลการตรวจในครั้งก่อนพบความผิดปกติเกิดขึ้น นอกจากนี้การเลือกทานอาหารก็สำคัญเพราะมันก็มีอาหารอยู่หลายชนิดที่สามารถช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ เช่น แครอท มันเทศ ฟักทอง ที่มีคุณสมบัติช่วยต้านการเกิดเซลล์มะเร็ง เนื่องจากเป็นผัก-ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ หรือเบต้าแคโรทีนที่สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอเมื่อถูกดูดซึมเข้าร่างกาย และก็ยังมีผักอื่น ๆ อีกมากมาย ยังไงก็อย่าลืมลองหามาทานกันบ้างนะคะทุกคน เพื่อสุขภาพที่ดีต่อตัวคุณเองค่ะ
#มะเร็งปากมดลูก
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดเป็นมะเร็งปากมดลูก
1.การติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) ติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ การมีคู่นอนหลายคน หรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่มีคู่นอนหลายคน
2.การสูบบุหรี่
3.การรับประทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลายาวนาน
4.การตั้งครรภ์หรือมีบุตรหลายคน
5.ภูมิคุ้มกันไม่ดี
6.การละเลยไม่ไปตรวจภายในเพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
7.ขาดสารอาหารบางชนิด โดยฉพาะผู้หญิงที่รับประทานผักและผลไม้น้อย มีโอกาสเป็นมะเร็งชนิดพบบ่อย รวมทั้งมะเร็งปากมดลูกสูงกว่าคนที่รับประทานผักและผลไม้มาก
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่ปากมดลูกสามารถตรวจพบได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และสามารถทำการรักษาเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปากมดลูกในอนาคตได้ ซึ่งผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 25 - 49 ปี แนะนำให้ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุก 3 ปี และผู้หญิงที่อายุ 50 - 64 ปี แนะนำในตรวจคัดกรองทุก 5 ปี สำหรับผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป แนะนำให้ตรวจคัดกรองเฉพาะผู้ที่ไม่ได้ตรวจคัดกรองเลยตั้งแต่อายุ 50 ปี หรือให้คัดกรองผู้ที่มีผลการตรวจในครั้งก่อนพบความผิดปกติเกิดขึ้น นอกจากนี้การเลือกทานอาหารก็สำคัญเพราะมันก็มีอาหารอยู่หลายชนิดที่สามารถช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ เช่น แครอท มันเทศ ฟักทอง ที่มีคุณสมบัติช่วยต้านการเกิดเซลล์มะเร็ง เนื่องจากเป็นผัก-ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ หรือเบต้าแคโรทีนที่สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอเมื่อถูกดูดซึมเข้าร่างกาย และก็ยังมีผักอื่น ๆ อีกมากมาย ยังไงก็อย่าลืมลองหามาทานกันบ้างนะคะทุกคน เพื่อสุขภาพที่ดีต่อตัวคุณเองค่ะ
#มะเร็งปากมดลูก