poy.poypoy
สมาชิกโดดเด่น
- สมัครเมื่อ
- 14 มีนาคม 2015
- โพสต์
- 56
เสริมจมูกซิลิโคนเจองานแดง งานทะลุ ต้องไปแก้ให้จบ!
สวัสดีค่าทุกคนนนนน ที่เห็นภาพล่างนั้นจมูกพิพลอยแบบไร้การเสริมแต่งใดๆ นั้นเอง สมัยนั้นยังวัยรุ่นใสใสอยู่เลยอ่า ก็ทำได้แค่ดัดฟันไป พอเข้ามหาลัยก็แอบที่บ้านไปถอยจมูกจ้า เริ่มจากเบสิคๆ คือเสริมจมูกซิลิโคนตามคนแถวบ้าน ที่เราเห็นว่าเค้าทำออกมาแล้วสวย ก็ไปถามเค้าจนได้คอนแทคไปทำสมใจ ตอนนั้นด้วยความที่ยังเด็กอยู่ด้วย ข้อมงข้อมูลหรอ ไม่มีค่า เค้าว่าดีเราทำตาม
“อยากเสริมจมูกรอบแรก”
ตอนที่เราไปทำที่คลินิกนี่เป็นแบบปรึกษาแล้วทำเลยค่ะ จ่ายไปประมาณ 12,000 ได้ เป็นเสริมซิลิโคนธรรมดา ได้คุยกับคุณหมออยู่ประมาณ 5 นาที เค้าบอกว่าเราเนื้อน้อยนะ อาจเสริมได้ไม่โด่งมาก เพราะหนังที่ตรงจมูกก็บาง ถ้าเสริมเอาแบบสวยๆปลายจะไม่ไหว แต่ด้วยตอนนั้นยังเด็กก็เลยตัดสินใจทำทันที ไม่ได้คิดหน้าคิดหลังอะไรเลยค่ะ
“วินาทีตอนเสริมจมูก...”
ตอนนั้นมือสั่นเหงื่อออกเต็มมือเลย แล้วก็เจ็บตอนฉีดยาชามากด้วย ได้ยินคุณหมอบอกว่า “ฉีดยาชานี้ดเดียวน้า ไม่เจ็บๆ” TT แต่น้ำตาเรานี่ไหลพรากเลย แต่หลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วค่ะ มีรู้สึกว่ามีอะไรมากึกกักที่จมูกแค่นั้นแล้วความรู้สึกตอนทำมันนานมากๆ พอคุณหมอบอกว่าเสร็จแล้วเราลืมตาขึ้นมาดูนาฬิกา เอ้าผ่านไปแค่ 20 นาทีเอง หลังจากตั้งสติได้ขอบอกความรู้สึกแรกก่อนว่าปวดตึบที่จมูกเลยค่ะ แบบความรู้สึกตุบๆ เหมือนโดนต่อยที่จมูก(ประมาณนั้น 5555)
ช่วงนั้นด้วยความที่มันเป็นครั้งแรกของเราก็ไม่ค่อยดูแลอะไรมากหรอกค่ะ แค่ไม่จับจมูกเล่นแล้วกินยาตามที่หมอบอกก็พอ จมูกตอนนั้นไม่ค่อยช้ำและก็บวมไม่เยอะค่ะ น่าจะเพราะคุณหมอไม่กระทุ้งแรงมาก เลยไม่ค่อยช้ำ แต่ก็ไม่ค่อยได้ปลื้มจมูกใหม่อะไรมาก ทำไมน่ะหรอ เพราะมันไม่ค่อยโด่งน่ะสิคะ ทำมาเหมือนไม่ได้ทำ มันดูธรรมชาติมากกกกกก มากเกินไปด้วยซ้ำ
“ตัดสินใจแก้จมูก”
เราก็เป็นมนุษย์เพศหญิงเนาะ เสียเงินแล้วทั้งที เสริมจมูกแล้วไม่โด่งแล้วมันไม่ใช่อ่า เราก็เลยหาที่ทำใหม่คราวนี้ขอที่เค้าบอกว่าดัง ว่าเด็ด ไกลแค่ไหนเราก็ไป สรุปได้เสริมที่คลินิกนึงแถวทองหล่อ มีชื่ออยู่พอสมควร เราเห็นพริตตี้ไปทำกันเยอะ เราก็นัดคิวเข้าไปปรึกษาค่ะ ที่นี่ก็นัดปรึกษาแล้วทำเลยเหมือนกัน ช่วงที่ปรึกษากับคุณหมอเค้าบอกเรานะว่าหนังเราบางมาก แต่คุณหมอจะเสริมซิลิโคนแล้วรองปลายซิลิโคนด้วยกระดูกอ่อนหลังหูเพื่อป้องการทะลุให้ด้วย ค่าเสียหายอยู่ที่ 45,000 รวมแก้ ตอนนั้นทางคุณหมอและเซลล์ก็เชียร์ให้เรามาแก้จมูกกับเค้า แถมบอกว่าทำครั้งนี้โด่งพุ่ง ไม่ทะลุแน่นอน เราเลยโอเคที่จะเสริมจมูกกับที่นี่ค่ะ
“เสริมจมูกครั้งก็ว่าเจ็บ...ครั้งที่ 2 ...เจ็บกว่า”
เสริมจมูกครั้งนี้ไม่กลัวเท่าครั้งแรกแล้วค่ะ เพราะรู้ว่ามันไม่มีอะไรมาก ครั้งนี้ทำนานกว่าครั้งแรก น่าจะเพราะต้องเอากระดูกอ่อนหลังหูมาทำด้วย อยากบอกว่าตอนทำรอบนี้เจ็บกว่ารอบแรกมาก เพราะต้องฉีดยาชาถึงสองรอบ พอทำเสร็จมีแผลสองที่คือที่ในจมูกและหลังหูด้วย รอบนี้เราดูแลดีหน่อยเพราะมีแผลหลายจุด พอครบอาทิตย์เราก็ไปตัดไหม ตอนนั้นสันจมูกสูงโด่งพุ่งมากค่ะ แต่พอจมูกเริ่มรัดแกนก็เห็นทรงชัดขึ้น ช่วงนั้นแฮปปี้ดี๊ด๊ากับจมูกใหม่มาก เริ่มแต่งตัวแต่งหน้ามากขึ้น สนุกกับการแต่งหน้าแต่งตัวมากค่ะ
อันนี้ซิลิโคนอันเก่า คุณหมอให้เก็บมาดูเป็นที่ระลึก
ช่วงที่ทำเสร็จใหม่ๆ ค่ะ ปลายจมูกมนสวย ปลายพุ่งดีมากค่ะ
สวัสดีค่าทุกคนนนนน ที่เห็นภาพล่างนั้นจมูกพิพลอยแบบไร้การเสริมแต่งใดๆ นั้นเอง สมัยนั้นยังวัยรุ่นใสใสอยู่เลยอ่า ก็ทำได้แค่ดัดฟันไป พอเข้ามหาลัยก็แอบที่บ้านไปถอยจมูกจ้า เริ่มจากเบสิคๆ คือเสริมจมูกซิลิโคนตามคนแถวบ้าน ที่เราเห็นว่าเค้าทำออกมาแล้วสวย ก็ไปถามเค้าจนได้คอนแทคไปทำสมใจ ตอนนั้นด้วยความที่ยังเด็กอยู่ด้วย ข้อมงข้อมูลหรอ ไม่มีค่า เค้าว่าดีเราทำตาม
“อยากเสริมจมูกรอบแรก”
ตอนที่เราไปทำที่คลินิกนี่เป็นแบบปรึกษาแล้วทำเลยค่ะ จ่ายไปประมาณ 12,000 ได้ เป็นเสริมซิลิโคนธรรมดา ได้คุยกับคุณหมออยู่ประมาณ 5 นาที เค้าบอกว่าเราเนื้อน้อยนะ อาจเสริมได้ไม่โด่งมาก เพราะหนังที่ตรงจมูกก็บาง ถ้าเสริมเอาแบบสวยๆปลายจะไม่ไหว แต่ด้วยตอนนั้นยังเด็กก็เลยตัดสินใจทำทันที ไม่ได้คิดหน้าคิดหลังอะไรเลยค่ะ
“วินาทีตอนเสริมจมูก...”
ตอนนั้นมือสั่นเหงื่อออกเต็มมือเลย แล้วก็เจ็บตอนฉีดยาชามากด้วย ได้ยินคุณหมอบอกว่า “ฉีดยาชานี้ดเดียวน้า ไม่เจ็บๆ” TT แต่น้ำตาเรานี่ไหลพรากเลย แต่หลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วค่ะ มีรู้สึกว่ามีอะไรมากึกกักที่จมูกแค่นั้นแล้วความรู้สึกตอนทำมันนานมากๆ พอคุณหมอบอกว่าเสร็จแล้วเราลืมตาขึ้นมาดูนาฬิกา เอ้าผ่านไปแค่ 20 นาทีเอง หลังจากตั้งสติได้ขอบอกความรู้สึกแรกก่อนว่าปวดตึบที่จมูกเลยค่ะ แบบความรู้สึกตุบๆ เหมือนโดนต่อยที่จมูก(ประมาณนั้น 5555)
ช่วงนั้นด้วยความที่มันเป็นครั้งแรกของเราก็ไม่ค่อยดูแลอะไรมากหรอกค่ะ แค่ไม่จับจมูกเล่นแล้วกินยาตามที่หมอบอกก็พอ จมูกตอนนั้นไม่ค่อยช้ำและก็บวมไม่เยอะค่ะ น่าจะเพราะคุณหมอไม่กระทุ้งแรงมาก เลยไม่ค่อยช้ำ แต่ก็ไม่ค่อยได้ปลื้มจมูกใหม่อะไรมาก ทำไมน่ะหรอ เพราะมันไม่ค่อยโด่งน่ะสิคะ ทำมาเหมือนไม่ได้ทำ มันดูธรรมชาติมากกกกกก มากเกินไปด้วยซ้ำ
“ตัดสินใจแก้จมูก”
เราก็เป็นมนุษย์เพศหญิงเนาะ เสียเงินแล้วทั้งที เสริมจมูกแล้วไม่โด่งแล้วมันไม่ใช่อ่า เราก็เลยหาที่ทำใหม่คราวนี้ขอที่เค้าบอกว่าดัง ว่าเด็ด ไกลแค่ไหนเราก็ไป สรุปได้เสริมที่คลินิกนึงแถวทองหล่อ มีชื่ออยู่พอสมควร เราเห็นพริตตี้ไปทำกันเยอะ เราก็นัดคิวเข้าไปปรึกษาค่ะ ที่นี่ก็นัดปรึกษาแล้วทำเลยเหมือนกัน ช่วงที่ปรึกษากับคุณหมอเค้าบอกเรานะว่าหนังเราบางมาก แต่คุณหมอจะเสริมซิลิโคนแล้วรองปลายซิลิโคนด้วยกระดูกอ่อนหลังหูเพื่อป้องการทะลุให้ด้วย ค่าเสียหายอยู่ที่ 45,000 รวมแก้ ตอนนั้นทางคุณหมอและเซลล์ก็เชียร์ให้เรามาแก้จมูกกับเค้า แถมบอกว่าทำครั้งนี้โด่งพุ่ง ไม่ทะลุแน่นอน เราเลยโอเคที่จะเสริมจมูกกับที่นี่ค่ะ
“เสริมจมูกครั้งก็ว่าเจ็บ...ครั้งที่ 2 ...เจ็บกว่า”
เสริมจมูกครั้งนี้ไม่กลัวเท่าครั้งแรกแล้วค่ะ เพราะรู้ว่ามันไม่มีอะไรมาก ครั้งนี้ทำนานกว่าครั้งแรก น่าจะเพราะต้องเอากระดูกอ่อนหลังหูมาทำด้วย อยากบอกว่าตอนทำรอบนี้เจ็บกว่ารอบแรกมาก เพราะต้องฉีดยาชาถึงสองรอบ พอทำเสร็จมีแผลสองที่คือที่ในจมูกและหลังหูด้วย รอบนี้เราดูแลดีหน่อยเพราะมีแผลหลายจุด พอครบอาทิตย์เราก็ไปตัดไหม ตอนนั้นสันจมูกสูงโด่งพุ่งมากค่ะ แต่พอจมูกเริ่มรัดแกนก็เห็นทรงชัดขึ้น ช่วงนั้นแฮปปี้ดี๊ด๊ากับจมูกใหม่มาก เริ่มแต่งตัวแต่งหน้ามากขึ้น สนุกกับการแต่งหน้าแต่งตัวมากค่ะ
อันนี้ซิลิโคนอันเก่า คุณหมอให้เก็บมาดูเป็นที่ระลึก
ช่วงที่ทำเสร็จใหม่ๆ ค่ะ ปลายจมูกมนสวย ปลายพุ่งดีมากค่ะ
แก้ไขล่าสุดเมื่อ:
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก
- หน้าเด็กกว่าเดิมด้วยการยกคิ้วนะคะ