BXBBBYy
สมาชิกโดดเด่น
- สมัครเมื่อ
- 8 กุมภาพันธ์ 2017
- โพสต์
- 7
สวัสดีครับทุกท่านที่หลงเข้ามาอ่าน ผมบ็อบบี้ครับ สำหรับใครที่มีปัญหาหน้าบาน กรอบหน้าไม่ชัด อยากให้อ่านให้จบ เพราะคุณมีปัญหาเดียวกับผม
ก่อนดูดไขมันกรอบหน้าที่ masterpiececlinic
ส่วนตัวด้วยอาชีพการงานของผมที่ต้องออกกล้องบ่อย ทำให้เห็นจุดบกพร่องบนใบหน้าของตัวเองได้ง่ายครับ ปัญหาของผมคือช่วงกรอบหน้าที่ไม่ชัด อาจเป็นเพราะช่วงที่ผ่านมาทั้งเรียนหนัก ทั้งทำงานหนักด้วย พอมารับงานช่วงนี้ขอบกรอบมันหายไปอย่างชัดเจน และด้วยส่วนตัวผมอยากให้เห็นขอบกรามชัดๆ เป็นทุนเดิม อยากให้หน้าคมๆ แบบนายแบบเกาหลี
กรอบหน้าชัดๆ แบบนี้
พอลองมาหาข้อมูลวิธีการปรับรูปหน้าตามอินเตอร์เน็ตก็มีโจทย์ให้เลือกหลายๆ อย่าง อย่างการฉีดสารโบท็อกซ์ เมโสแฟต หรือการใช้เครื่องเลเซอร์ เครื่องนวดกระชับต่างๆ คือต้องบอกเลยว่ามันเยอะมากจนตัวเราก็ไม่กล้าจะลองเสี่ยง เพราะถึงราคาจะไม่สูง แต่การทำอะไรพวกนี้ก็ต้องทำมากกว่า 1 ครั้ง ไม่จบในครั้งเดียวแน่นอน
ก่อนดูดไขมันกรอบหน้าที่ masterpiececlinic
ผมเลยปรึกษากับเพื่อนที่ทำงานคลินิกความสวยความงามที่นึง (บอกชื่อตรงๆ เลย masterpiececlinic ครับ) เพื่อนก็แนะนำว่าตอนนี้ที่คลินิกเค้ามีการปรับรูปหน้าแบบใหม่แล้วนะ คือการทำ Facial Vaser หรือถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ เป็นคำศัพท์ภาษาไทยก็คือการดูดไขมันใบหน้าครับ ซึ่งการทำ Facial Vaser จะดีกว่าการรักษาแบบอื่นๆ คือ ทำครั้งเดียวจบ ไม่ต้องไปทำซ้ำให้ยุ่งยาก แต่อาจมีข้อเสียตรงที่ต้องใช้เวลาพักฟื้น และกว่าจะเห็นผลต้องใช้เวลา 1 – 3 เดือน ส่วนตัวผมไม่ค่อยซีเรียสเรื่องเห็นผลช้าเร็ว แต่ขอให้เห็นผลและอยู่ถาวรไปเลยทีเดียวจบ ไม่อยากมานั่งทำซ้ำๆ เลยเอาวะ ตัดสินใจให้เพื่อนนัดคิวปรึกษากับหมอผู้เชี่ยวชาญให้
ก่อนดูดไขมันกรอบหน้าที่ masterpiececlinic
ถึงวันปรึกษา คลินิกหาง่ายๆ อยู่ตรงข้ามห้างMBK เยื้องๆ หัวมุมสี่แยกสยาม อาจจะงงๆ สำหรับคนที่ไปครั้งแรกเพราะคลินิกมี 2 ตึก ข้อสังเกตง่ายๆ ตึกศัลยกรรมจะเป็นตึกใหม่ๆ หน่อย ประตูอัตโนมัติ ส่วนตึกสกิน ดูแลผิวพรรณประตูไม่ออโต้ครับ ต้องเปิดเอง บรรยากาศคลินิกดูดีมากๆ ใหญ่มากกว่าที่จะเรียกว่าคลินิกสำหรับผมนะ 555 เข้าไปถึงก็ทำประวัติแล้วก็นั่งรอคิวเรียกครับ วันที่ผมไปคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่น่าจะเป็นเพราะวันธรรมดา รอแค่ 15 นาทีครับน้องพนักงานก็มาเรียก เปลี่ยนรองเท้า แล้วขึ้นไปรอห้องปรึกษาที่ชั้น 3 แปปนึงคุณหมอก็เข้ามาครับเหมือนพึ่งเสร็จผ่าตัดใหม่ๆ มาเลย พอทักทายกัน ไหว้คุณหมอเสร็จปุ๊ป คุณหมอก็จับหน้าผมเอียงซ้าย เอียงขวา จับบริเวณขากรรไกรไล่ไปถึงขอบกราม
ตอนนั้นผมเลยเปิดฉากถามคุณหมอก่อนเลยครับว่าอยากให้ขอบหน้าชัดขึ้น กระชับขึ้น ระหว่างดูดไขมันหน้า กับวิธีอื่น ผมเหมาะกับแบบไหนมากกว่า คุณหมอก็แนะนำว่าบริเวณขอบกรามของผมไม่ได้มีไขมันเยอะนะ แต่มันเริ่มหย่อนคล้อย การฉีดสารพวกโบท่อกซ์หรือเมโสไม่เห็นผลชัดเจนแน่ๆ แนะนำให้ทำThermarge หรือ Hifu (เลเซอร์นวดกระชับหน้า ประมาณนั้น) แต่อาจจะต้องซื้อเป็นคอร์สหรือทำมากกว่า 1 ครั้ง ส่วนการดูดไขมันหน้า นอกจากจะดูดไขมันส่วนเกินของกรอบหน้าออกมาแล้ว เครื่องที่ดูดยังช่วยกระชับใบหน้าได้ด้วย ซึ่งจะเหมาะกับตัวผมมากกว่า เพราะผมมีไขมันเกินอยู่ด้วย ก็ประมาณนี้ที่ได้ปรึกษาคุณหมอ แล้วก็ลงมาถามราคาค่าใช้จ่าย ตอนนั้นชั่งใจว่าจะทำพวกเลเซอร์หรือดูดไขมันไปเลย เลยเอาราคามาเทียบกัน สรุปแล้วก็พอๆ กัน แต่คิดว่าดูดไขมันหน้าไปเลยดีกว่าเพราะได้กำจัดไขมันส่วนเกินไปด้วยเลย
คุณหมอวาดบริเวณที่จะดูดไขมันกรอบหน้าครับผม ขอบคุณรูปภาพจากคลินิกนะครับ
คุณหมอวาดบริเวณที่จะดูดไขมันกรอบหน้าครับผม ขอบคุณรูปภาพจากคลินิกนะครับ
คุณหมอวาดบริเวณที่จะดูดไขมันกรอบหน้าครับผม ขอบคุณรูปภาพจากคลินิกนะครับ
ก่อนวันทำทางคลินิกกำชับว่าจะต้องงดhang out Party แอลกอฮอล์ บุหรี่ รวมถึงวิตามินอาหารเสริมต่างๆ 2 อาทิตย์นะครับผม รวมถึงวันที่ต้องไปผ่าตัดเนี่ย ควรจะนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะพวกนี้ล้วนเป็นปัจจัยทำให้ร่างกายเราอ่อนแอ ตอนผ่าตัดจะทำให้เสียเลือดเยอะกว่าปกติ หลังทำก็จะบวมช้ำเยอะกว่าคนทั่วไปด้วย เพราะฉะนั้นงดครับ ผมนี่เรียกว่าถือศีลเลยก็ว่าได้ กินคลีนอยู่บ้านงดสังสรรค์ไปเต็มๆ 2 อาทิตย์ คืนวันก่อนไปทำก็นอนแต่หัววันครับ พอถึงวันที่ไปทำเลยรู้สึกสดชื่น ปนอารมณ์ตื่นเต้น เพราะเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผมนะดูดไขมัน ไม่คิดไม่ฝันว่าเราจะได้ทำ 555 มาถึงคลินิกก็เตรียมตัว
เปลี่ยนเสื้อผ้าหน้าผม เรียบร้อย นั่งรอห้องวีไอพีแปปนึงพนักงานก็เข้ามาเรียกครับ เข้าสู่ห้องผ่าตัด สภาพห้องดูสะอาดมากๆ คล้ายๆ ในซีรีส์หนังฝรั่งเวลาเข้าห้องผ่าตัดเลย เหลือบไปเห็นเครื่องดูดไขมันแล้วก็ยิ่งตื่นเต้นครับ สำหรับคนที่คิดว่าจะกลัวจนไม่กล้าทำ สามารถบอกพยาบาลได้เลยครับ เค้าจะให้ยาคลายเครียด ส่วนตัวผมพร้อมลุยอยู่แล้วครับ แต่แอบคิดว่ามันจะต้องเจ็บแน่ๆ แต่จริงๆ ไม่รู้สึกอะไรเลยครับ เจ็บตอนยาชาไปนิดหน่อยก็สบายตัวเลย คุณหมอบอกว่าจริงๆ แล้วปกติคุณหมอจะเพิ่มจำนวนครั้งการใช้เจ้าเครื่องFacial Vaser ในการดูดไขมันและกระชับใบหน้า 50 ครั้ง เป็น 60 ครั้งต่อนาที ใช้เวลาไม่นานครับไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็เสร็จเรียบร้อย จะรู้สึกตึงๆ บริเวณใต้หูและหลังหู ได้นอนพักสักแปปนึงก็จะโดนmoveไปเตียงพักฟื้นคนไข้อีกห้องนึง ซึ่งช่วงนี้พยาบาลจะนั่งเฝ้าเราด้วยนะ ใครไปคนเดียวก็ไม่ต้องกลัวครับ หิวน้ำ ปวดฉี่ หรือเกิดเหตุฉุกเฉินก็ปลอดภัยแน่นอน จำได้ว่านอนเล่นอยู่ประมาณ 15 นาทีก็เปลี่ยนเสื้อผ้า ขับรถกลับบ้านปกติไม่มีอาการบวมช้ำหรือเจ็บหลังทำอะไรเลยครับ
หลังดูดไขมันกรอบหน้าทันทีที่ masterpiececlinic
ก่อนดูดไขมันกรอบหน้าที่ masterpiececlinic
ส่วนตัวด้วยอาชีพการงานของผมที่ต้องออกกล้องบ่อย ทำให้เห็นจุดบกพร่องบนใบหน้าของตัวเองได้ง่ายครับ ปัญหาของผมคือช่วงกรอบหน้าที่ไม่ชัด อาจเป็นเพราะช่วงที่ผ่านมาทั้งเรียนหนัก ทั้งทำงานหนักด้วย พอมารับงานช่วงนี้ขอบกรอบมันหายไปอย่างชัดเจน และด้วยส่วนตัวผมอยากให้เห็นขอบกรามชัดๆ เป็นทุนเดิม อยากให้หน้าคมๆ แบบนายแบบเกาหลี
กรอบหน้าชัดๆ แบบนี้
พอลองมาหาข้อมูลวิธีการปรับรูปหน้าตามอินเตอร์เน็ตก็มีโจทย์ให้เลือกหลายๆ อย่าง อย่างการฉีดสารโบท็อกซ์ เมโสแฟต หรือการใช้เครื่องเลเซอร์ เครื่องนวดกระชับต่างๆ คือต้องบอกเลยว่ามันเยอะมากจนตัวเราก็ไม่กล้าจะลองเสี่ยง เพราะถึงราคาจะไม่สูง แต่การทำอะไรพวกนี้ก็ต้องทำมากกว่า 1 ครั้ง ไม่จบในครั้งเดียวแน่นอน
ก่อนดูดไขมันกรอบหน้าที่ masterpiececlinic
ผมเลยปรึกษากับเพื่อนที่ทำงานคลินิกความสวยความงามที่นึง (บอกชื่อตรงๆ เลย masterpiececlinic ครับ) เพื่อนก็แนะนำว่าตอนนี้ที่คลินิกเค้ามีการปรับรูปหน้าแบบใหม่แล้วนะ คือการทำ Facial Vaser หรือถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ เป็นคำศัพท์ภาษาไทยก็คือการดูดไขมันใบหน้าครับ ซึ่งการทำ Facial Vaser จะดีกว่าการรักษาแบบอื่นๆ คือ ทำครั้งเดียวจบ ไม่ต้องไปทำซ้ำให้ยุ่งยาก แต่อาจมีข้อเสียตรงที่ต้องใช้เวลาพักฟื้น และกว่าจะเห็นผลต้องใช้เวลา 1 – 3 เดือน ส่วนตัวผมไม่ค่อยซีเรียสเรื่องเห็นผลช้าเร็ว แต่ขอให้เห็นผลและอยู่ถาวรไปเลยทีเดียวจบ ไม่อยากมานั่งทำซ้ำๆ เลยเอาวะ ตัดสินใจให้เพื่อนนัดคิวปรึกษากับหมอผู้เชี่ยวชาญให้
ก่อนดูดไขมันกรอบหน้าที่ masterpiececlinic
ถึงวันปรึกษา คลินิกหาง่ายๆ อยู่ตรงข้ามห้างMBK เยื้องๆ หัวมุมสี่แยกสยาม อาจจะงงๆ สำหรับคนที่ไปครั้งแรกเพราะคลินิกมี 2 ตึก ข้อสังเกตง่ายๆ ตึกศัลยกรรมจะเป็นตึกใหม่ๆ หน่อย ประตูอัตโนมัติ ส่วนตึกสกิน ดูแลผิวพรรณประตูไม่ออโต้ครับ ต้องเปิดเอง บรรยากาศคลินิกดูดีมากๆ ใหญ่มากกว่าที่จะเรียกว่าคลินิกสำหรับผมนะ 555 เข้าไปถึงก็ทำประวัติแล้วก็นั่งรอคิวเรียกครับ วันที่ผมไปคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่น่าจะเป็นเพราะวันธรรมดา รอแค่ 15 นาทีครับน้องพนักงานก็มาเรียก เปลี่ยนรองเท้า แล้วขึ้นไปรอห้องปรึกษาที่ชั้น 3 แปปนึงคุณหมอก็เข้ามาครับเหมือนพึ่งเสร็จผ่าตัดใหม่ๆ มาเลย พอทักทายกัน ไหว้คุณหมอเสร็จปุ๊ป คุณหมอก็จับหน้าผมเอียงซ้าย เอียงขวา จับบริเวณขากรรไกรไล่ไปถึงขอบกราม
ตอนนั้นผมเลยเปิดฉากถามคุณหมอก่อนเลยครับว่าอยากให้ขอบหน้าชัดขึ้น กระชับขึ้น ระหว่างดูดไขมันหน้า กับวิธีอื่น ผมเหมาะกับแบบไหนมากกว่า คุณหมอก็แนะนำว่าบริเวณขอบกรามของผมไม่ได้มีไขมันเยอะนะ แต่มันเริ่มหย่อนคล้อย การฉีดสารพวกโบท่อกซ์หรือเมโสไม่เห็นผลชัดเจนแน่ๆ แนะนำให้ทำThermarge หรือ Hifu (เลเซอร์นวดกระชับหน้า ประมาณนั้น) แต่อาจจะต้องซื้อเป็นคอร์สหรือทำมากกว่า 1 ครั้ง ส่วนการดูดไขมันหน้า นอกจากจะดูดไขมันส่วนเกินของกรอบหน้าออกมาแล้ว เครื่องที่ดูดยังช่วยกระชับใบหน้าได้ด้วย ซึ่งจะเหมาะกับตัวผมมากกว่า เพราะผมมีไขมันเกินอยู่ด้วย ก็ประมาณนี้ที่ได้ปรึกษาคุณหมอ แล้วก็ลงมาถามราคาค่าใช้จ่าย ตอนนั้นชั่งใจว่าจะทำพวกเลเซอร์หรือดูดไขมันไปเลย เลยเอาราคามาเทียบกัน สรุปแล้วก็พอๆ กัน แต่คิดว่าดูดไขมันหน้าไปเลยดีกว่าเพราะได้กำจัดไขมันส่วนเกินไปด้วยเลย
คุณหมอวาดบริเวณที่จะดูดไขมันกรอบหน้าครับผม ขอบคุณรูปภาพจากคลินิกนะครับ
คุณหมอวาดบริเวณที่จะดูดไขมันกรอบหน้าครับผม ขอบคุณรูปภาพจากคลินิกนะครับ
คุณหมอวาดบริเวณที่จะดูดไขมันกรอบหน้าครับผม ขอบคุณรูปภาพจากคลินิกนะครับ
ก่อนวันทำทางคลินิกกำชับว่าจะต้องงดhang out Party แอลกอฮอล์ บุหรี่ รวมถึงวิตามินอาหารเสริมต่างๆ 2 อาทิตย์นะครับผม รวมถึงวันที่ต้องไปผ่าตัดเนี่ย ควรจะนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะพวกนี้ล้วนเป็นปัจจัยทำให้ร่างกายเราอ่อนแอ ตอนผ่าตัดจะทำให้เสียเลือดเยอะกว่าปกติ หลังทำก็จะบวมช้ำเยอะกว่าคนทั่วไปด้วย เพราะฉะนั้นงดครับ ผมนี่เรียกว่าถือศีลเลยก็ว่าได้ กินคลีนอยู่บ้านงดสังสรรค์ไปเต็มๆ 2 อาทิตย์ คืนวันก่อนไปทำก็นอนแต่หัววันครับ พอถึงวันที่ไปทำเลยรู้สึกสดชื่น ปนอารมณ์ตื่นเต้น เพราะเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผมนะดูดไขมัน ไม่คิดไม่ฝันว่าเราจะได้ทำ 555 มาถึงคลินิกก็เตรียมตัว
เปลี่ยนเสื้อผ้าหน้าผม เรียบร้อย นั่งรอห้องวีไอพีแปปนึงพนักงานก็เข้ามาเรียกครับ เข้าสู่ห้องผ่าตัด สภาพห้องดูสะอาดมากๆ คล้ายๆ ในซีรีส์หนังฝรั่งเวลาเข้าห้องผ่าตัดเลย เหลือบไปเห็นเครื่องดูดไขมันแล้วก็ยิ่งตื่นเต้นครับ สำหรับคนที่คิดว่าจะกลัวจนไม่กล้าทำ สามารถบอกพยาบาลได้เลยครับ เค้าจะให้ยาคลายเครียด ส่วนตัวผมพร้อมลุยอยู่แล้วครับ แต่แอบคิดว่ามันจะต้องเจ็บแน่ๆ แต่จริงๆ ไม่รู้สึกอะไรเลยครับ เจ็บตอนยาชาไปนิดหน่อยก็สบายตัวเลย คุณหมอบอกว่าจริงๆ แล้วปกติคุณหมอจะเพิ่มจำนวนครั้งการใช้เจ้าเครื่องFacial Vaser ในการดูดไขมันและกระชับใบหน้า 50 ครั้ง เป็น 60 ครั้งต่อนาที ใช้เวลาไม่นานครับไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็เสร็จเรียบร้อย จะรู้สึกตึงๆ บริเวณใต้หูและหลังหู ได้นอนพักสักแปปนึงก็จะโดนmoveไปเตียงพักฟื้นคนไข้อีกห้องนึง ซึ่งช่วงนี้พยาบาลจะนั่งเฝ้าเราด้วยนะ ใครไปคนเดียวก็ไม่ต้องกลัวครับ หิวน้ำ ปวดฉี่ หรือเกิดเหตุฉุกเฉินก็ปลอดภัยแน่นอน จำได้ว่านอนเล่นอยู่ประมาณ 15 นาทีก็เปลี่ยนเสื้อผ้า ขับรถกลับบ้านปกติไม่มีอาการบวมช้ำหรือเจ็บหลังทำอะไรเลยครับ
หลังดูดไขมันกรอบหน้าทันทีที่ masterpiececlinic
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก
- หน้าเด็กกว่าเดิมด้วยการยกคิ้วนะคะ