ขนหนา ดกดำ กำจัดง่ายไม่เจ็บเลย

[so good]

เทรนด์ความงามสำหรับหนุ่มสาว เชื่อได้เลยว่าคำตอบแรกคงหนีไม่พ้นการมีผิวที่ใส เรียบเนียน เกลี้ยงเกลา แลดูอ่อนเยาว์ใช่ไหมค่ะ แต่ในบางครั้งความงามเหล่านั้นก็อาจถูกบดบังด้วยเส้นขนที่หนา หรือดกดำ จนต้องหาวิธีเพื่อมากำจัดขนเจ้าปัญหาออก ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดขนแบบชั่วคราวหลากหลายวิธี อย่าง โกน แว็กซ์ แกะ ถอน หรือบางวิธีที่ต้องใช้สารเคมีในการกำจัดร่วมด้วยนั้น นอกจากจะเจ็บตัวเพื่อแลกกับความเนียนใสของผิวแล้ว ก็อาจทำให้ผิวของเราเกิดอาการระคายเคือง หรือแพ้เป็นผื่นแดงตามไปด้วย หรือการกำจัดขนแบบถาวรด้วยเทคโนโลโลยีต่างๆ ก็ต้องศึกษาให้ดี เพราะบางเทคโนโลยีก็อาจมีผลข้างเคียงกับสภาพผิวบางประเภท หรืออาการแสบร้อนในขณะทำ รวมถึงไม่ได้ผลลัพธ์ชัดเจนตามที่ทุกคนปรารถนาก็เป็นได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้การกำจัดเส้นขนแบบถาวรที่ดีที่สุด ก็คือ การใช้เลเซอร์ แต่เลเซอร์แบบไหนล่ะที่จะตอบสนองทุกปัญหาขนได้ดีที่สุดโดยไม่ทำให้เกิดอันตราย เรามาทำความรู้จักกับเลเซอร์กันค่ะ

โดยปกติการกำจัดขนด้วยเลเซอร์จะใช้หลักการ Selective Photothermolysis หรือสรุปง่ายๆ ก็คือ การทำลายเฉพาะเซลล์เป้าหมาย โดยเลือกความยาวคลื่นที่เหมาะสมบวกกับพลังงานที่สูงพอ และระยะเวลาในการลงของพลังงานที่พอดีสำหรับการทำลายเซลล์เป้าหมายนั้นๆ ซึ่งเซลล์เป้าหมายของการกำจัดขนนั่นก็คือเมลานินนั่นเองค่ะ

ซึ่งเลเซอร์ที่เราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง ก็มีอยู่ 4 ชนิดหลักๆ แบ่งตามความยาวของคลื่นและชนิดของสื่อกลาง ได้แก่ Ruby, Alexandrite, Diode และ Nd:YAG ที่หลายๆคนจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดี ซึ่งการกำจัดขนชนิด Ruby และ Alexandrite นั้นไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทยหรือในแถบเอเชีย เพราะว่าสีผิวของคนในแถบนี้จะเข้มกว่าคนยุโรป มีปริมาณเมลานินในผิวมากกว่า จึงทำให้เกิดอาการเบิร์นหรือไหม้ของผิวได้ง่าย

สำหรับในประเทศไทยเรามีเลเซอร์อยู่ 2 ระบบที่ได้รับความนิยม และมักนำมาใช้ในการกำจัดขนถาวรนั่นก็คือ Long Pulse ND-YAG และ Diode Laser เพราะเจ้า 2 ตัวนี้ มีความยาวคลื่นที่เหมาะสมในการทำลายได้ลึกถึงรากขน เหมาะสำหรับผิวคนเอเชีย จึงสามารถกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย หลายๆคน คงอาจเกิดคำถามในใจขึ้นมาแล้วว่า เจ้า 2 ตัวนี้ต่างกันที่ตรงไหน และตัวไหนการกำจัดขนได้ดีกว่ากันใช่มั้ยคะ

ระบบ Long Pulse ND-YAG และ Diode Laser แบบไหนกำจัดขนได้ดีกว่ากัน ?

Long Pulse ND-YAG Laser

คือ เลเซอร์ที่มีต้นกำเนิดแสงเป็นแท่งผลึกแข็ง ให้ความยาวคลื่น 1064 nm หรือที่เราเรียกกันจนคุ้นหูว่าแย๊ก ซึ่งจะใช้ความยาวของคลื่นสูง ทำให้สามารถลงลึกถึงรากขนได้เยอะ แต่ ND-YAG ที่ลงลึกนั้นไม่ได้ไปเกาะเมลานินซึ่งเป็นต้นกำเนิดของรากขนได้เฉพาะเจาะจงเหมือน Diod จึงสูญเสียพลังงานไปกับน้ำในผิวก่อนที่จะถึงรากขน ทำให้ประสิทธิภาพด้อยกว่า Diode และโอกาสที่ผิวเราจะเบิร์น หรือเกิดอาการเจ็บแสบขณะทำก็จะสูงกว่านั่นค่ะ

Diode Laser

Diode laser เป็นเลเซอร์ที่มีต้นกำเนิดแสงเป็นสารกึ่งตัวนำ และเป็นชนิดเลเซอร์ที่ให้คลื่นแสงได้หลายช่วง โดยช่วงที่เหมาะสมสำหรับการกำจัดขนคือความยาวคลื่นประมาณ 800 nm ซึ่งเป็นความยาวคลื่นที่จับกับเมลานินได้ดี โดยไม่สูญเสียพลังงานไปกับน้ำที่ผิวหนัง ทำให้ใช้พลังงานน้อยๆก็ลงลึกถึงรากขน ทำให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บขณะทำ และโอกาสการเบิร์นของผิวน้อยมาก
สรุปง่ายๆ ก็คือ เครื่องกำจัดขนด้วย Diode Laser จะกำจัดขนได้ตรงจุดมากกว่า Long Pulse ND-YAG นั่นเองค่ะ เพราะสามารถจับเมลานินซึ่งเป็นตัวกำเนิดของรากขนได้เฉพาะเจาะจง และโอกาสเสี่ยงที่ผิวของเราจะเบิร์นหรือไหม้ก็น้อยมากๆค่ะ เพื่อนๆคนไหนที่กำลังเลือกหาคลินิกที่จะไปกำจัดขนอยู่ นอกจากจะต้องคำนึงถึงเรื่องราคาแล้ว ก็ควรจะศึกษาข้อมูลของเครื่องที่คลินิกนั้นๆใช้ด้วยนะคะ ว่าเป็นเครื่องกำจัดขนชนิดไหน เจ็บหรือไม่ แล้วได้ผลจริงๆหรือเปล่า เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของเราค่ะ เพราะแต่ละเครื่องก็มีความแตกต่างกันออกไป แต่ถ้าเอาความมั่นใจจริงๆ ก็ขอแนะนำให้เป็นเครื่องที่ใช้ Diode Laser อย่าง Magma ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ในขณะนี้ มันดีกว่าเครื่องอื่นอย่างไร แล้วทำไมถึงต้องกำจัดขนด้วย Magma เราไปรู้จักกันเลยค่ะ
Magma นวัตกรรมใหม่ในการกำจัดด้วยเลเซอร์ปลอดภัย ไม่เจ็บ กำจัดขนได้ทุกชนิด ด้วยการผสมผสานการทำงานถึง 2 ระบบเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


Magma คืออะไร?
Magma คือ นวัตกรรมใหม่ล่าสุดในการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ ด้วยการผสมผสานการทำงานถึง 2 ระบบ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


1. IPL คือ IPL (Intense Pulse Light) เป็นการรักษาด้วยแสงที่มีความเข้มสูง โดยแสงดังกล่าวจะถูกกรองช่วงคลื่นแสงที่ไม่ต้องการออก เหลือแต่ช่วงสั้นๆ ที่มีผลดีกับการรักษาหรืออาการทางผิวหนังต่างๆ

2. Diode laser คือ เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 808 nm สำหรับกำจัดขนทุกชนิด โดยเฉพาะขนที่มีลักษณะหนา รากลึก และสีดำ โดยสามารถปรับพลังงานให้เหมาะสมได้กับทุกสีผิว จึงลดอัตราเสี่ยงการไหม้ของผู้ที่มีสีผิวเข้มได้ดีกว่าเลเซอร์ชนิดอื่นๆ ไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวด และระยะเวลาในการรักษาน้อย

ทำไมต้องกำจัดขนด้วยเครื่อง Magma ?
✔ เพราะระบบ Diode ในเครื่อง Magma สามารถจับ Melanin ต้นกำเนิดขนได้ตรงจุดที่สุด จึงกำจัดขนได้ลึกกว่า
✔ ไม่เจ็บ ไม่แสบร้อน ด้วย Tip Cooling 4 องศา ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังชั้น epidermis เกิดอาการไหม้ได้ ช่วยให้ผิวรู้สึกสบายขณะทำ
✔ ใช้เวลาในการรักษาน้อย เพราะสามารถปรับความถี่ (Repetition Rate) ได้สูงถึง 10 Hz
✔ ปรับโหมดการรักษาได้ถึง 5 โหมด ตามลักษณะขน สีผิว และพื้นที่ในการรักษา จึงเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน

✔ เหมาะสำหรับทุกสีผิว ด้วย Melanin Meter วัดค่าระดับเมลานินบริเวณที่รักษา ทำให้ปรับค่าพลังงานได้อย่างแม่นยำ และปลอดภัย

✔ผิวกระจ่างใสขึ้นหลังทำทันที และสามารถทำได้ทั่วเรือนร่าง