noonueng
Junior Member
- สมัครเมื่อ
- 23 กันยายน 2013
- โพสต์
- 51
ส่วนตัวได้เปิดโลกทัศน์เรื่องกรีดตาสองชั้นแบบแผลยาวแบบสิ้นเชิงเลยทีเดียวว่ามันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด
ชื่อ "นู๋หนึ่ง" นะคะ ^^ (หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจทำตาอยู่นะคะ)
รายละเอียดรีวิวอันแรก กรีดตาสองชั้นแบบแผลเล็ก (กรีดเอาไขมันออก) หาอ่านได้ที่นี่นะคะ ...http://goo.gl/svLULS
นี่คือรูปก่อนทำครั้งแรกเลยนะคะ
ปัญหาส่วนตัวสำหรับเราเลยเป็นคนที่มีรูปตาที่เล็กและสั้นมาก และหนังตาเยอะมากค่ะ ซึ่งเราวอแวมากเหมือนกันเลยทำเป็นรูปปัญหาส่งไปปรึกษากับพี่ตาล (ที่รับดูแลเคสเราค่ะ) กับคุณหมอว่าหนังตาเราที่ทำไปนั้น ตอนนี้มันลงมาติดกับชั้นตาค่ะ ทำให้ดูเป็นเหมือนคนตาสองชั้นหลบในเลย ลองดูในรูปละกันนะคะจะได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ^^
*** รูปข้างล่างที่เห็นมีชั้นตานั่น หนึ่งติดสติกเกอร์ให้คุณหมอนกดูนะคะ ***
ตอนเอาแบบรูปคนอื่นให้คุณหมอนกดู บอกอยากได้แบบตาแขกหัวตาเปิด
คุณหมอนกก็ตอบกลับมาว่า...
"มันทำไม่ได้นะ เพราะตาเราแตกต่างจากคนอื่น ๆ ในแบบมาก คนอื่นๆ ถึงตาเค้าจะตี่เหมือนเราแต่ช่วงตาเค้ายาวมันทำให้สามารถทำแบบหัวตาเปิดได้ แต่เพราะช่วงตาเรามันทั้งแคบและสั้นมากกก คงทำแบบนี้ไม่ได้ บอกตรงๆ เลยว่าเราถือว่าเป็นเคสที่ตาเล็กและแคบสั้นที่สุดที่หมอเลยเจอแล้วนะ"
ดูเหมือนคุณหมอจะไม่เกทความต้องการของเราเท่าไหร่ว่าเราอยากได้ชั้นตาประมาณไหน เลยเปิดรูปข้างล่างที่เคยทำไว้ให้คุณหมอดูเลยว่า ... " คุณหมอคะ ใจจริงอยากได้ชั้นตาแบบประมาณในรูปนี้อ่ะค่ะ อยากได้แบบนี้เลย อันนี้ตาหนูเองค่ะ "
คราวนี้คุณหมอถึงบางอ้อเลยบอกออกมาเลยว่า "อ่ออออ... ได้ๆ แบบนี้นะ ตาเราใช่ไหม โอเคๆ " เฮ้ออออ คุณหมอเข้าใจละโล่งไป...
*** ประสบการณ์ส่วนตัวเลยนะคะ ก่อนที่จะทำควรคุยกับคุณหมอให้เคลียร์ให้ต่างฝ่ายตรงเข้าใจความต้องการของกันและกันให้แน่ก่อน สำหรับการทำตาสองชั้น ส่วนตัวเรานะแนะนำว่าอย่าไปนั่งหาแบบสวยๆ ของคนอื่นให้เหนื่อยเลยค่ะ "เอาตาของเราเองนี่แหละ...ดีที่สุด !!! " ลองแปะสติกเกอร์ดูว่าเราชอบชั้นตาประมาณไหน แค่ไหนถึงพอใจและคิดเองแล้วว่าสวย ก็แล้วถ่ายรูปตาอันนั้นไว้ นั่นถือว่าเป็นแบบที่ perfect ที่สุดสำหรับตัวเราเองแล้วค่ะ มันเห็นผลลัพธ์ช้ดเจนดี ***
ซึ่งก็ได้นัดเข้าไปคุยกับคุณหมอ และได้รับคำปรึกษามาว่า...ส่วนตัวสำหรับเรานั้นเป็นคนหนังตาเยอะมากทำตาแบบกรีดแผลเล็กทำไปไม่นานหนังตาก็จะตกลงมาเหมือนอย่างที่เห็น และสำหรับกรณีแบบเราทางแก้ที่ดีที่สุดคงต้อง
"กรีดตาแบบแผลยาว เพื่อตัดหนังตาทิ้งไปเลย " ซึ่งก็มีโอกาสที่จะเป็นแผลเป็นสูงมาก
แต่ในกรณีของหนึ่งรางวัลที่ได้จากเพจ "โดดเด่น" นั้นคือการคือ...การทำตาสองชั้นแบบแผลเล็ก ซึ่งมันคนละเรื่องกันเลยนะคะ แต่คุณหมอใจดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จริงๆ ค่ะ
คุณหมอบอกว่า "อยากให้สวยเดี๋ยวคุณหมอแก้ให้ก็ได้"
บอกเลย "ซึ้งมากค่ะ...น้ำตาจิไหล TT "
ตอนแรกยอมรับเลยว่า "แอบกลัว" เรื่องแผลเป็นอยู่เหมือนกันแต่ทำไงได้คนอยากสวยเลยบอกคุณหมอว่า "ลุยเลยค่ะคุณหมอหนูสู้ตาย เดี๋ยวค่อยไปดูแลแผลกันอีก ><" และก็ทำการนัดผ่าตัดกันอีก 1 สัปดาห์ให้หลังค่ะ
ซึ่งตอนทำรอบนี้คลีนิคย้ายมาเปิดใหม่แล้วที่แถวๆ terminal21 มาสะดวกมากขึ้นมากค่ะ ติดๆ กับห้างเลย
ขั้นตอนก่อนการผ่าตัดก็เปลี่ยนไป (ดีขึ้นกว่าเดิม) ตอนผ่าตัดนั้นรู้สึกได้เลยว่าการทำครั้งนี้คุณหมอนกปรานีตมากๆ คุณหมอนกยังคงอารมณ์ดีทำไปฮัมเพลงไปเหมือนเดิม ตอนผ่าไม่ได้หลับนะคะเบลอๆ มึนๆ
แต่ขอบอกว่า......." ไม่รู้สึกเจ็บเลยยยยยย ดีกว่ากว่าครั้งแรกมากมาย "
ครั้งนี้ไม่มีการใช้เครื่องที่ทำให้เราได้กลิ่นไหม้ๆ นะคะมีดล้วนๆ
พอตอนคุณหมอนกวาดชั้นตานิทำให้เราถึงกับ "เฮ้ย....ทำไมคุณหมอวาดยาวจังวะ!!"
คือบอกเลยว่าความคิดแผลยาวของเรา ผิดกับของจริงลิบลับ (แอบกลัว)
แต่สิ่งนึงที่ประทับใจมากเลยคือ...คำพูดของคุณหมอนกที่บอกกับเราตอนทำว่า
"คุณหมอตั้งใจเย็บให้ดีเลยน้าาา เพราะคุณหมอเข้าใจความรู้สึกว่าการทำตาแล้วเป็นแผลเป็นๆ ยังไง"
ซึ้งงงงงง ค่ะน้ำตาจิไหล (อีกแล้ว).....
ทำรอบนี้น้ำตาไม่ไหลพากๆ เหมือนรอบแรก สบายกว่ากันเยอะ (เพราะไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆ) แต่พอกลับบ้านเท่านั้นแหละค่ะ จับเข้าไปที่หลังหัว "โอ้วมายก๊อดดดดดด...สะเก็ดเลือดแห้งกรังอยู่ตรงหลังหัว (รอบนี้เลือดแร๊งงงงงเนอะ) แอบขำเบาๆ)
วันแรกผ่านไปได้ด้วยดี ไม่เจ็บไม่ปวดแค่หน่วงๆ มึนๆ สบายมากพูดเลย
บอกตามตรงไม่ชอบกินยาเยอะ เมื่อมันไม่ปวดก็เลยคิดว่า..."ยาแก้ปวดนิไม่กินดีกว่า"
เข้าวันที่ 2 เท่านั้นละค่ะ คุณเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ปวดบรรลัย ตะเกียดตะกายหายาแก้ปวดแทบไม่ทัน
*** เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ...ยาที่คลีนิคให้มาจงกินๆ ไปซะอย่าไปสอดรู้มาก TT ***
ชื่อ "นู๋หนึ่ง" นะคะ ^^ (หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจทำตาอยู่นะคะ)
รายละเอียดรีวิวอันแรก กรีดตาสองชั้นแบบแผลเล็ก (กรีดเอาไขมันออก) หาอ่านได้ที่นี่นะคะ ...http://goo.gl/svLULS
นี่คือรูปก่อนทำครั้งแรกเลยนะคะ
ปัญหาส่วนตัวสำหรับเราเลยเป็นคนที่มีรูปตาที่เล็กและสั้นมาก และหนังตาเยอะมากค่ะ ซึ่งเราวอแวมากเหมือนกันเลยทำเป็นรูปปัญหาส่งไปปรึกษากับพี่ตาล (ที่รับดูแลเคสเราค่ะ) กับคุณหมอว่าหนังตาเราที่ทำไปนั้น ตอนนี้มันลงมาติดกับชั้นตาค่ะ ทำให้ดูเป็นเหมือนคนตาสองชั้นหลบในเลย ลองดูในรูปละกันนะคะจะได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ^^
*** รูปข้างล่างที่เห็นมีชั้นตานั่น หนึ่งติดสติกเกอร์ให้คุณหมอนกดูนะคะ ***
ตอนเอาแบบรูปคนอื่นให้คุณหมอนกดู บอกอยากได้แบบตาแขกหัวตาเปิด
คุณหมอนกก็ตอบกลับมาว่า...
"มันทำไม่ได้นะ เพราะตาเราแตกต่างจากคนอื่น ๆ ในแบบมาก คนอื่นๆ ถึงตาเค้าจะตี่เหมือนเราแต่ช่วงตาเค้ายาวมันทำให้สามารถทำแบบหัวตาเปิดได้ แต่เพราะช่วงตาเรามันทั้งแคบและสั้นมากกก คงทำแบบนี้ไม่ได้ บอกตรงๆ เลยว่าเราถือว่าเป็นเคสที่ตาเล็กและแคบสั้นที่สุดที่หมอเลยเจอแล้วนะ"
ดูเหมือนคุณหมอจะไม่เกทความต้องการของเราเท่าไหร่ว่าเราอยากได้ชั้นตาประมาณไหน เลยเปิดรูปข้างล่างที่เคยทำไว้ให้คุณหมอดูเลยว่า ... " คุณหมอคะ ใจจริงอยากได้ชั้นตาแบบประมาณในรูปนี้อ่ะค่ะ อยากได้แบบนี้เลย อันนี้ตาหนูเองค่ะ "
คราวนี้คุณหมอถึงบางอ้อเลยบอกออกมาเลยว่า "อ่ออออ... ได้ๆ แบบนี้นะ ตาเราใช่ไหม โอเคๆ " เฮ้ออออ คุณหมอเข้าใจละโล่งไป...
*** ประสบการณ์ส่วนตัวเลยนะคะ ก่อนที่จะทำควรคุยกับคุณหมอให้เคลียร์ให้ต่างฝ่ายตรงเข้าใจความต้องการของกันและกันให้แน่ก่อน สำหรับการทำตาสองชั้น ส่วนตัวเรานะแนะนำว่าอย่าไปนั่งหาแบบสวยๆ ของคนอื่นให้เหนื่อยเลยค่ะ "เอาตาของเราเองนี่แหละ...ดีที่สุด !!! " ลองแปะสติกเกอร์ดูว่าเราชอบชั้นตาประมาณไหน แค่ไหนถึงพอใจและคิดเองแล้วว่าสวย ก็แล้วถ่ายรูปตาอันนั้นไว้ นั่นถือว่าเป็นแบบที่ perfect ที่สุดสำหรับตัวเราเองแล้วค่ะ มันเห็นผลลัพธ์ช้ดเจนดี ***
ซึ่งก็ได้นัดเข้าไปคุยกับคุณหมอ และได้รับคำปรึกษามาว่า...ส่วนตัวสำหรับเรานั้นเป็นคนหนังตาเยอะมากทำตาแบบกรีดแผลเล็กทำไปไม่นานหนังตาก็จะตกลงมาเหมือนอย่างที่เห็น และสำหรับกรณีแบบเราทางแก้ที่ดีที่สุดคงต้อง
"กรีดตาแบบแผลยาว เพื่อตัดหนังตาทิ้งไปเลย " ซึ่งก็มีโอกาสที่จะเป็นแผลเป็นสูงมาก
แต่ในกรณีของหนึ่งรางวัลที่ได้จากเพจ "โดดเด่น" นั้นคือการคือ...การทำตาสองชั้นแบบแผลเล็ก ซึ่งมันคนละเรื่องกันเลยนะคะ แต่คุณหมอใจดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จริงๆ ค่ะ
คุณหมอบอกว่า "อยากให้สวยเดี๋ยวคุณหมอแก้ให้ก็ได้"
บอกเลย "ซึ้งมากค่ะ...น้ำตาจิไหล TT "
ตอนแรกยอมรับเลยว่า "แอบกลัว" เรื่องแผลเป็นอยู่เหมือนกันแต่ทำไงได้คนอยากสวยเลยบอกคุณหมอว่า "ลุยเลยค่ะคุณหมอหนูสู้ตาย เดี๋ยวค่อยไปดูแลแผลกันอีก ><" และก็ทำการนัดผ่าตัดกันอีก 1 สัปดาห์ให้หลังค่ะ
ซึ่งตอนทำรอบนี้คลีนิคย้ายมาเปิดใหม่แล้วที่แถวๆ terminal21 มาสะดวกมากขึ้นมากค่ะ ติดๆ กับห้างเลย
ขั้นตอนก่อนการผ่าตัดก็เปลี่ยนไป (ดีขึ้นกว่าเดิม) ตอนผ่าตัดนั้นรู้สึกได้เลยว่าการทำครั้งนี้คุณหมอนกปรานีตมากๆ คุณหมอนกยังคงอารมณ์ดีทำไปฮัมเพลงไปเหมือนเดิม ตอนผ่าไม่ได้หลับนะคะเบลอๆ มึนๆ
แต่ขอบอกว่า......." ไม่รู้สึกเจ็บเลยยยยยย ดีกว่ากว่าครั้งแรกมากมาย "
ครั้งนี้ไม่มีการใช้เครื่องที่ทำให้เราได้กลิ่นไหม้ๆ นะคะมีดล้วนๆ
พอตอนคุณหมอนกวาดชั้นตานิทำให้เราถึงกับ "เฮ้ย....ทำไมคุณหมอวาดยาวจังวะ!!"
คือบอกเลยว่าความคิดแผลยาวของเรา ผิดกับของจริงลิบลับ (แอบกลัว)
แต่สิ่งนึงที่ประทับใจมากเลยคือ...คำพูดของคุณหมอนกที่บอกกับเราตอนทำว่า
"คุณหมอตั้งใจเย็บให้ดีเลยน้าาา เพราะคุณหมอเข้าใจความรู้สึกว่าการทำตาแล้วเป็นแผลเป็นๆ ยังไง"
ซึ้งงงงงง ค่ะน้ำตาจิไหล (อีกแล้ว).....
ทำรอบนี้น้ำตาไม่ไหลพากๆ เหมือนรอบแรก สบายกว่ากันเยอะ (เพราะไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆ) แต่พอกลับบ้านเท่านั้นแหละค่ะ จับเข้าไปที่หลังหัว "โอ้วมายก๊อดดดดดด...สะเก็ดเลือดแห้งกรังอยู่ตรงหลังหัว (รอบนี้เลือดแร๊งงงงงเนอะ) แอบขำเบาๆ)
วันแรกผ่านไปได้ด้วยดี ไม่เจ็บไม่ปวดแค่หน่วงๆ มึนๆ สบายมากพูดเลย
บอกตามตรงไม่ชอบกินยาเยอะ เมื่อมันไม่ปวดก็เลยคิดว่า..."ยาแก้ปวดนิไม่กินดีกว่า"
เข้าวันที่ 2 เท่านั้นละค่ะ คุณเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ปวดบรรลัย ตะเกียดตะกายหายาแก้ปวดแทบไม่ทัน
*** เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ...ยาที่คลีนิคให้มาจงกินๆ ไปซะอย่าไปสอดรู้มาก TT ***
แก้ไขล่าสุดเมื่อ:
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก
- หน้าเด็กกว่าเดิมด้วยการยกคิ้วนะคะ