Noreen clinic - การขูดฟิลเลอร์ที่ติดเชื้อ

NoreenClinic

สมาชิกโดดเด่น
สมัครเมื่อ
17 สิงหาคม 2015
โพสต์
108
ปัจจุบันสาวๆ หนุ่มหล่อ หลายท่านจำนวนมากมักใส่ใจ และให้ความสนใจในเรื่องความสวยงาม
บ้างก็้เลือกที่จะทำให้ตัวเองดูดี และด้วยเทคโนโลยี่การแพทย์ด้านความงามมีหลากหลายมาตอบสนอง
ต่อความต้องการ ทำให้เกือบทุกคนเกิดการยอมรับในการทำสวย ทำหล่อ



ในกรณีนี้เป็นเคสเกี่ยวกับ การฉีด filler สารเติมเต็ม บริวเวณหน้าผาก เพื่อให้ดูโหนก
มีน้ำมีนวล หรืออาจจะตามโหงวเฮ้งในเรื่องดวงรับทรัพย์ คนไข้รายนี้ได้เข้ามาพบแพทย์
โนรินทร์คลินิกเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ไปทำการฉีดฟิลเลอร์บริเวณหน้าผาก



แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานรู้สึกว่ามีการอาการปวดหัวหนัก รวมถึงหน้าผากดูบวมผิดปกติ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโนรินทร์เราได้ทำการวิเคราะห์ ได้ผลสรุปว่าเกิดจากการติดเชื้อภายใน
ซึ่งจะต้องทำการขูดออกให้หมด รวมถึงการล้าง และฆ่าเชื้อบริเวณภายในทั้งหมด

(เคสนี้คนไข้ใช้ฟิลเลอร์ของแท้มารตฐานก็จริง แต่เราไม่รู้เลยว่าคลินิกเก่าที่ฉีดให้โชว์ให้เห็นไหม
ว่าทำการแกะออกจากกล่อง หรือแสดงให้แน่ชัดว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นของแท้ 100%)



(อีกข้อน่าสังเกตุคือ ถ้าเป็นของแท้แต่การฉีดมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค เช่นเครื่องมือไม่ปลอดเชื้อ
สถานที่ไม่สะอาด ก็อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้เช่นกัน)

ฟิลเลอร์นั้นแม้จะเป็นการเติมเต็มที่มีวิธีรวดเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น แต่แพทย์ผู้ฉีดนั้น
ควรมีความรู้ ความชำนาญอย่างสูง เพราะถ้าฉีดในส่วนอันตราย ฟิลเลอร์ไปเข้าเส้นเลือด อาจจะทำให้
เส้นเลือดบริเวณนั้น รวมถึงส่วนที่ลำเลียงไปยังจุดอื่นเกิดตัน อาจจะส่งงผลให้เนื้อส่วนอื่นๆตายได้เลยนะคะ
ซึ่งอันนี้น่ากลัวมากคะ



เคสนี้การรักษาแพทย์ได้ทำการเปิดบาดแผลบริเวณไรผมหน้าผากด้านบน (ซ่อนแผล) และทำการใช้เครื่องมือค่อยๆขูดออก
พบว่าเกิดการติดเชื้อชัดเจนออกมาพร้อมกับฟิลเลอร์ สีที่ออกมามีสีเหลืองผสมกับเม็ดชัดเจน เมื่อแพทย์ขูดออก
ก็ทำการล้างแผลเข้าสู่ภายในเพื่อทำการฆ่าเชื้อ และทำการเย็บปิดแผล พร้อมให้ยมารับประทาน เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนครั้งที่ 1

หลังจากนั้น 1 อาทิตย์แผลทำกระบวนการทั้งหมดแบบครั้งที่ 1 พบว่าอาการติดเชื้อแทบไม่มี อันเป็นผลมาจากครั้งที่1
ขูดได้ออกเกือบหมด



(ปกติการขูดฟิลเลอร์เพื่อรักษาอาการติดเชื้อ อักเสบต้องทำอย่างน้อย 2-3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปริมาณการขูด
รวมถึงจำนวน cc ที่คนไข้ได้ทำการฉีดไป)

ต่อมาคุณหมอได้ทำการเดรนบริเวณภายใน และนัดคนไข้มาดูแผลอีก 2-3 วัน

เมื่อผ่านไปสองสามวันคนไข้เข้ามาดูแผล พบว่าอาการติดเชื้อไม่มีแล้วแผลหายดีคุณหมอจึงปิดเคส เป็นที่เรียบร้อย
ด้วยความประทับใจของคนไข้คะ



หวังว่าเคสนี้คงเป็นอุทาหรณ์ให้หลายๆท่านที่คิดกำลังตัดสินใจไปฉีดฟิลเลอร์ให้ ให้คิดรอบคอบ รวมถึงใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ปัจจัยต่างๆ
ด้วยคะ เพราะถ้าทำกับคลินิกที่สะอาด เครื่องมือผ่านการฆ่าเชื้อทุกย่าง ผลิตภัณฑ์ของแท้เกรดดี รวมถึงแพทย์ีความชำนาญแล้ว
โอกาสที่จะเกิดปัญหาย่อมมีโอกาสน้อยมากคะ ขอบคุณคะ ^^
 
ด้านบน ด้านล่าง