[ตัดมาเข้าสู่โหมดขึ้นเขียง]
พอถึงคิวเราก็จะมีคุณผู้ช่วยนำยาอะไรก็ไม่รู้มาให้ทา นแล้วพาเราไปป้ายยาชาและให้นอนพักในห้องส่วนตัวค่ะ
[ภาพบน] *********
คุณผู้ช่วย : "เดี๋ยวคนไข้ทานยาแล้วนอนหลับไปเลยนะคะ เดี๋ยวอีกสักพักจะมาปลุกไปที่อีกห้องเพื่อให้คุณหมอเ ทสชั้นตาค่ะ"
เรา : "โอเคค่ะ...นอนนะคะ"
เราก็นอน...นอน...นอน...นอนไม่หลับง่ะ T_______T แต่เราปวดฉี่ง่ะพอลุกเท่านั้นแหละค่ะ เซ...เซ..เซเป็นอีสาวหมัดเมากันเลยทีเดียว
เลย ต้องมีคนพยุงไปเข้าห้องน้ำ ตะกี้เห็นเค้าเดินเซๆ กันทีนี้เกทละเป็นเยี่ยงนี้นี่เอง และก็ยังคงไม่รู้สึกง่วงหรืออยากหลับเลยสักนิด
พอถึงเวลาก็มีคนพาไปนอนที่เตียงอีกห้องเผื่อเทสชั้นต า
[ภาพล่าง] ***********
******** สิ่งที่เพิ่งรู้ ********
คือ...ไม่ว่าเราจะเตรียมแบบไปดีเลิศแค่ไหนแต่ถ้าองค์ ประกอบรูปตาและเบ้าตาเรามันได้แค่นั้นมันก็ได้แค่นั้ นแหละจ๊ะ
(เหนื่อยเตรียมแบบฟรีสินะ...เฮ้ออออ เสียเวลาไปหาแบบเพื่อ???? @#$!!%%~#!)
แต่ที่รู้ๆ ก็คือ....คุณหมอนกตัวเล็กมากกกกกกกกกกก เหมือนตุ๊กตาเลยเลย ฮ่าๆ
_______________________
[เข้าสู่โหมดคุณหนูช่างสงสัย....]
และระหว่างทำเราก็มีคำถามมากมายที่อยากรู้ก็ถามไประห ว่างที่คุณหมอเทสชั้นตาให้เรา
เรา : "คุณหมอค่ะ..ขอชั้นตาหนาๆ ได้ไหมคะ? เพราะชอบกรีดอายไลเนอร์อยากให้มันเหลือชั้นตาเยอะๆ อ่ะค่ะ"
คุณหมอนก : "ตาเราเล็กมากเลยนะเนี่ย ขอหมอลองเทสดูก่อนนะว่าได้แค่ไหนถึงจะเหมาะกับเรานะค ะ
อ่ะ..มองที่นิ้วคุณหมอนะคะ (หลังจากนั้นคุณหมอก็เอาไม้จิ้มฟันมั้งมาวางที่ตาแล้ วให้เรามองตาม)
หมอว่าถ้าชั้นหนาไปตาเราจะดูตลกนะ มันจะดูหลอกๆ ไม่ค่อยสวย
น่าจะได้มากสุดแค่สัก 6.5 มิลนะคะ ได้แค่นี้แหละจ๊ะเพราะตาเราเล๊กกกเล็ก (แน๊...มีเน้น T__T)
เรา : "อ่อเหรอค่ะ..โอเคค่ะ"
เรา : "คุณหมอค่ะ...เห็นว่ามีการทำแบบแผลเล็กกับกรีดยา ว คุณหมอจะทำแบบไหนให้เหรอคะ?"
คุณหมอนก : "อ่อ...ของเราจะเป็นแบบแผลเล็กนะ เพราะแบบกรีดยาวหมอจะทำให้เฉพาะ
กับคนที่มีปัญหาพวกหนังตาตกเยอะๆ หรือตาที่แบบชั้นตาย่นๆ ค่ะ"
เรา : "อ่อเหรอค่ะ..โอเคค่ะ" (อีกรอบ)
เมื่อคุณหมอเทสชั้นตาเสร็จ คุณผู้ช่วยก็มาทายาชาที่ตาให้เราอีกรอบพร้อมกับเช็ดท ำความสะอาด
ฆ่าเชื้อบนหน้าเราเรียบร้อยแล้วก็พูดย้ำเราอีกรอบว่า ....
คุณผู้ช่วย : "เดี๋ยวคนไข้หลับไปเลยนะคะ คิดซะว่าเป็นบ้านของตัวเองแล้วกันนะคะ"
เรา : "โอเคค่ะ"
เราก็นอน..........นอน............นอน...........ไม่ หลับ (อีกแล้ววววววววววว) ตื่นเต้นสินะ? ไงมันก็ไม่หลับ
ที่จริงคุณหมอเค้าต้องรอให้เราหลับก่อนเค้าถึงมาฉีดย าชาที่ตาอีกที แต่ทำไงได้ในเมื่อคนไข้คนนี้โคตรดื้อยาเลย
ตาอย่างใสแป๋วอ่ะค่ะ O_o คุณหมอรอแล้วรออีกจนกระทั่งเอ่ยขึ้นมาว่า....
คุณหมอนก : "คนไข้ไม่ง่วงเลยหรอคะ? เอาไงดีล่ะ? งั้นทำกันสดๆ เลยละกันเนอะลองดู"
เรา : "ห๋า??...O_o" (ซวยแล้ววววววว งานงอก เราก็รู้อะนะว่ามันมียาชามันไม่เจ็บหรอกแต่ทำม๊ายยยย ยยยย แง๊........ !!!)
คุณหมอนก : "หมอไม่ค่อยเจอนะเนี่ยที่จะไม่หลับเลยแบบเราอ่ะ"
เรา : "แหะๆ เอาก็เอาค่ะ" (คิดในใจ...ทำไมเมิงไม่หลับห๊าาาาาาาาาา??? -..-)
แล้วคุณหมอก็ลงมือกรีดตาค่ะ เป็นประสบการณ์แรกที่ฮาดคอมากรับรู้ทุกขั้นตอน
ตั้งแต่กรี๊ดตา เปิดหนังตา เสาะไขมัน ดึง เย็บ จี้หนัง เข็มเย็บหนังตา ดึงๆๆ ทุกช็อตนิขอบอกว่านึกภาพออกเลย
แต่...มันไม่เจ็บเลยค่ะ !! ออกแนวจิต จินตนาการตามอยู่คนเดียว เพลีย >,<
ตั้งแต่นอนบนเตียงจนเสร็จไม่มีแม้ความง่วงเข้ามากล้ำ กรายเลยถามคุณหมอไปว่า
เรา : "คุณหมอค่ะ ปกติคนไข้เค้าหลับกันหมดทุกคนเลยหรอค่ะ แล้วเค้ารู้สึกตัวกันตอนไหนบ้างอ่ะคะ"
คุณหมอนก : "ใช่ค่ะ...เค้าจะหลับกันตั้งแต่หลังตอนที่หมอเทส ชั้น ตาเสร็จนั่นแหละค่ะ
แล้วจะตื่นกันอีกทีก็ตอนที่หมอทำเสร็จแล้วจ๊ะก็จะปลุ กคนไข้แต่ไม่หลับเลยแบบเคสเรานิหมอไม่ค่อยเจอนะ"