ศัลยกรรมครั้งแรก แบบจัดหนักไม่พักเบรกที่มาสเตอร์พีซ คลินิกค่ะ

aomamiya

สมาชิกใหม่
สมัครเมื่อ
29 สิงหาคม 2017
โพสต์
4
เป็นมั้ยคะ เวลาเห็นคนสวยๆ เดินผ่านแล้วมองตาม บางทีก็คิดอยากมีตรงนั้นตรงนี้เป็นเหมือนคนนั้นบ้างจัง หลายทีที่มองกระจกก็รู้สึกไม่ชอบหน้าตัวเองขึ้นมา หลายครั้งลองแต่งหน้าแต่งตัวก็โดนล้อว่าป้า คือเห้ยเราอายุยังไม่ถึง 30 เลยนะทำไมพูดใส่แรงจัง มันก็ทำให้เรารู้สึกหมดความมั่นใจไปซะดื้อๆ เลยในใจก็คิดอยู่ตลอดว่าทำไมเราไม่สวยเหมือนคนอื่นบ้าง เลยพยายามทำทุกอย่างให้ตัวเองดูดีขึ้น ทั้งหัดแต่งหน้าแต่งตัว ลองหาเทรนด์ใหม่ๆ ตลอด

7isb1.jpg


ตอนนั้นเพิ่งหัดแต่งหน้าใหม่ๆ ค่ะ คิ้วปลิงมาก แถมโดนเพื่อนล้อด้วย อายตัวเองจัง

โชคดีที่เรารู้จักเพื่อนคนนึง ที่คอยให้กำลังใจเราตลอด สอนเราแต่งตัวแบบที่เหมาะกับเรา ถึงหน้าเราไม่ให้แต่ใจเราก็รัก เราก็พยายามแต่งตามที่เพื่อนแนะนำ แป้งอันไหนเค้าว่าดี ลิปอันไหนเค้าว่าเลิศ เพื่อนเราพาไปเหมามาหมดค่ะ เพื่อนสอนเราแต่งหน้าจนพอเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาแบบนี้

p6mn2.jpg



ตอนนี้เพื่อนเริ่มให้หัดแต่งหน้าแต่งตัวแล้วค่ะ

เราก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้นเวลาออกไปข้างนอก เวลาออกไปเจอผู้คน พอกลับบ้านมาก็แปลงร่างเป็น เราคนเดิม ที่เพื่อนชอบล้อว่าป้า คือถ้าจะออกไปข้างนอกยังไงก็ต้องแต่งหน้าตลอดไม่อย่างงั้น เราจะรู้สึกไม่มั่นใจเอาซะเลย แต่เราก็ไม่หยุดที่จะทำให้ตัวเองดูดีขึ้น เราจึงเริ่มหาจุดบกพร่องของตัวเองว่ามีปัญหาอะไรบ้าง สรุปเจอปัญหาเยอะเลยค่ะ แต่ที่เห็นชัดๆ เลยคือจมูกเราแหมบสั้นไม่สวย ไม่มีดั้ง ไม่มีสันใดๆเลยทั้งสิ้น คือนอนตะแคงนี่ตาแทบจะกองมารวมกัน มีตาที่เรามองว่ามันเล็กและชั้นตาก็หลบในซะจนแทบมองไม่เห็น และอีกอย่างคือหน้าเราดูเป็นกระดูกดูไม่เต็มอิ่ม ตาก็โหล คือมองรวมๆแล้วหน้าดูโทรมมาก

x40g3.jpg

เมื่อก่อนใส่แว่นไม่ได้เลย แว่นไหลตลอด

สิ่งแรกที่ทำคือไปปรึกษาเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษาเรามาตลอด เพื่อนก็บอกแกลองไปทำหน้าดูมั้ย ฉีดฟิลเลอร์ โบท็อก เลเซอร์ น่าจะดีนะ หรือจะทำศัลยกรรมไปเลยอยู่นานดี ไม่ต้องไปทำบ่อยๆ เราฟังแล้วก็เอออย่างหลังนี่น่าสนใจ เมื่อก่อนเราก็คิดที่จะทำจมูกครั้งนึงแต่เพราะตอนนั้นยังเรียนอยู่เลยเลิกล้มความคิดนี้ไป พอเพื่อนมาจุดประเด็นเราก็รู้สึกอยากทำขึ้นมา


เริ่มหาข้อมูลคลินิกที่อยากทำ เพราะเราไม่มีข้อมูลอะไรในหัวเลย เพื่อนที่ทำศัลยกรรมก็ไม่รู้จักซักคน เลยตัดสินใจเลือกจาก คลินิกที่ไม่ใช่คลินิกเถื่อน ต้องสะอาด คุณหมอต้องดี และรีวิวค่ะ ตอนที่หาข้อมูลก็มีอยู่ 2-3 คลินิกในใจ แต่สุดท้ายตัดสินใจทำจมูกที่มาสเตอร์พีซ คลินิก เพราะจากที่หาอ่านรีวิวไม่มีเรื่องแย่ๆ เท่าไหร่ เราก็คงไม่ใช่ 1 ในพันที่ดวงซวยหรอกเนาะ อีกอย่างคนที่รีวิวให้คลินิกนี้ทำออกมาแล้วดูดีขึ้นทุกคน และเห็นมีเทคนิคพิเศษที่ไม่เหมือนที่อื่นคือ Nose reconstruction ด้วย ในรีวิวคนที่ไปทำบอกว่าทำไปแล้วไม่ทะลุ เนื้อน้อย จมูกแบนแค่ไหนก็ทำได้ คือมันน่าสนใจมากอ่ะ


ตัดสินใจติดต่อขอปรึกษาที่จะทำจมูก จากทางหน้าเฟสบุ๊คมาสเตอร์พีซ คลินิก เราได้คุยปรึกษากับคุณหมอเบนซ์โฆษิตค่ะ ทางแอดมินบอกว่าคุณหมอเชี่ยวชาญทางเรื่องจมูกมาก ซึ่งเราก็เห็นด้วยจากรีวิวที่เคยอ่านมา แต่ละคนทำออกมาแล้วสวยมาก พอได้ไปคลินิกเพื่อปรึกษาเรื่องจมูกกับคุณหมอ ก็ต้องบอกว่าชอบกับที่นี่ค่ะ อย่างแรกเลยคลินิกสะอาดจริง พนักงานดูแลค่อนข้างโอเคสำหรับเรา มีให้กรอกเอกสาร คอยบอกเราตรงไหนที่เราอาจไม่เข้าใจ มีน้ำมีขนมให้กินระหว่างรอด้วย และชอบตรงที่ให้เราตัดสินใจหลังปรึกษาเสร็จแล้ว แบบไม่ขายของจนทำให้เราอึดอัดใจ แต่เคารพการตัดสินใจของเราค่ะ เพราะตอนนั้นเราขอกลับมาคิดก่อนด้วย แต่ก็ไม่ได้โดนเหวี่ยง หรือดึงหน้าใส่เราแต่อย่างใด
 

aomamiya

สมาชิกใหม่
สมัครเมื่อ
29 สิงหาคม 2017
โพสต์
4
ar514.jpg


น้ำดื่มคลินิก ที่พนักงานเอามาให้ค่ะ

พูดถึงคุณหมอตอนที่เราเข้าไปคุยตอนแรกเราตัดสินใจที่จะทำจมูกแบบ Nose Reconstruction แต่พอได้คุยแล้ว เรารู้สึกว่าราคามันสูงมาก แต่คุณหมอก็อยากให้เราทำเทคนิคนี้ คุณหมอบอกว่าสันจมูกเราแบนมาก แถมปลายใหญ่หนา เนื้อเยอะ จมูกดูเป็นทรงชมพู่ หากเสริมจมูกซิลิโคนจะช่วยให้สันจมูกดูโด่งขึ้นเท่านั้น ปลายจมูกอาจจะดูพุ่งเล็กน้อย ถ้าต้องการให้จมูกดูเรียวเป็นธรรมชาติคุณหมอบอกว่า Nose Reconstruction จะช่วยได้มากกว่า แต่ถ้าทำจมูกด้วยซิลิโคนจมูกจะดูมีมิติมากขึ้น และคุณหมอแนะนำให้เราทำ Fat Transfer ด้วย (fat transfer เป็นการเอาไขมันจากร่างกายตัวเองมาเติมที่ใบหน้าค่ะ คุณหมอบอกว่าดีกว่าการเติม Filler เพราะเป็นไขมันของเราเอง) เพราะหน้าเราดูเป็นกระดูกเยอะ ถ้าใช้ไขมันเติมที่ใบหน้าบางจุดอย่างตรงใต้ตา ขมับและหน้าผาก หน้าเราจะดูเต็มอิ่ม และดูเด็กลง เพราะหน้าจะดูไม่แข็ง

h6445.jpg

วันที่ไปปรึกษาออกมาฝนกำลังมาเลย ตอนแรกว่าจะเดิมสยามต่อสุดท้ายต้องรีบนั่ง Bts กลับบ้าน

พอปรึกษาเสร็จเราก็ขอกลับมาคิดก่อนว่าจะทำดีมั้ยเพราะการทำจมูกแบบ Nose reconstruction เนี่ยราคาค่อนข้างสูงมากๆ เราก็ตัดสินใจโทรไปปรึกษาเพื่อนเหมือนเดิม เพื่อนก็แนะมาว่าถ้ายังเงินไม่ถึงก็ค่อยๆ เก็บเงินไปก่อนแล้วทำทีหลังก็ได้ แต่ถ้าใจร้อนอยากทำเลยทำจมูกซิลิโคนก็ไม่เสียหายอะไร ส่วนเรื่อง Fat Transfer เราว่าก็น่าสนใจมากเพราะหน้าแกดูแก่เพราะรูปหน้าดูไม่เต็มนี่ เราคุยกับเพื่อนเสร็จมานั่งคิดว่าที่เพื่อนพูดมันก็จริง ถ้าเราจะทำจมูกซิลิโคนกับทำ fat transfer ไปด้วยก็น่าจะดีกว่า อีกอย่างเราไม่ได้อยากให้จมูกโด่งพุ่งเป็นฝรั่งอะไร เราแค่อยากให้หน้าดูมีมิติขึ้นเฉยๆ เอง


หลังจากตัดสินใจแล้ว เราก็โทรกลับไปตามเบอร์ที่พนักงานให้มาว่าเราตัดสินใจจำศัลยกรรมกับที่นี่ (มาคิดดูอีกทีทำไมตอนนั้นถึงกล้าทำพร้อมกันถึงสองอย่างเลยก็ไม่รู้ ศัลยกรรมเคยทำมั้ยก็ไม่เคย เคยแค่ดัดฟันเอง 555) พนักงานบอกก็ให้เราดูแลตัวเองยังไงบ้าง และให้วันนัดทำศัลยกรรมเรามาด้วยค่ะ

udrb6.jpg


เพื่อนแอบถ่ายรูปตอนจ่ายเงิน ก่อนทำสวย 555

ถึงวันจริงที่เราต้องเข้าไปศัลยกรรมแล้ว ความจริงตื่นเต้นมาก จนพาเพื่อนไปด้วยให้ไปเป็นกำลังใจ 555 เพื่อนแอบถ่ายรูปตอนจ่ายเงินมา บอกแกตอนจะทำสวยนี้มีความสุขเนอะ จ่ายไปตั้งเยอะ ดูไม่เสียดายตังเล้ยยยย 555 จ่ายเงินเสร็จก็มีเอกสารให้เซ็น แล้วก็ให้ไปถ่ายรูปเปลี่ยนชุด ทำความสะอาดหน้าค่ะ


พนักงานพาเราเข้าห้องผ่าตัด แล้วก็กลับไปค่ะ มีพยาบาลมารับช่วงต่อ ตอนนั้นคุณหมอเข้ามาก็คุยกับเราเรื่องหน้าว่าจะทำอะไรก่อน ของเราคุณหมอทำ Fat transfer ให้ก่อนคุณหมอจะดูดไขมันจากขาเรา แล้วเอาไปแยกไขมันดี เพื่อมาเติมที่หน้าเรา จากนั้นคุณหมอก็ถึงจะทำจมูกให้เราค่ะ

nugt7.jpg


ก่อนทำช่วงที่คุยกับคุณหมอ เราให้พี่พยาบาลถ่ายให้ค่ะ ที่คุณหมอวงไว้ เป็นที่ที่เราต้องเติมไขมันค่ะ

หลังจากนั้นคุณหมอก็ให้เราขึ้นเตียงและฉีดยาให้เราค่ะ เราจำชื่อไม่ได้ว่าคือยาอะไร แต่ที่รู้คือเรารู้สึกมึนมาก แล้วก็หลับไปช่วงนึงเลยค่ะ ตื่นขึ้นมาตอนที่คุณหมอกำลังจะทำจมูกต่อพอดี แต่ตอนนั้นมันยังรู้สึกมึนๆ เลยไม่ได้ตกใจอะไร ตอนที่คุณหมอทำจมูกเรารู้หมดว่าคุณหมอทำอะไรบ้าง ลงมีด ใส่ซิลิโคน เย็บแผล เรารู้หมด แต่เราไม่มีแรงที่จะกลัว ตลกจัง

หลังจากทำเสร็จเราก็เดินมึนมาที่ห้องพักฟื้น พยาบาลให้เจลเย็นๆ มาประคบที่หน้า นอนไปได้ 10 นาที เพื่อนก็มาหาพร้อมกับพนักงาน เพื่อนเห็นสภาพเราตอนแรกก็ตกใจ แต่พอเราหายมึนแล้วพูดปร๋อจนเพื่อนบอกไม่เจ็บหรือไง ตอนนั้นเราก็ไม่ได้เจ็บอะไร สบายมากอีกด้วย เพื่อนเลยถ่ายรูปไว้ให้ซะเลย

ndv98.jpg


หลังกลับมานอนพักไป 1 คืน ตื่นขึ้นมาส่องกระจกตกใจตัวเอง 555 หน้าบวมตาแทบปิด ช้ำที่ใต้ตาด้วย ดีที่เป็นวันหยุดพอดีไม่ต้องแบกหน้าไปให้เพื่อนที่ทำงานตกใจ

v4ty9.jpg


พัฒนาการความสวยค่า หน้าดูแบ๊วขึ้นเพราะหน้าผากและตาเต็มขึ้น

เราเรียงภาพเป็น Timeline ให้ดูนะ ว่าหน้าเราช้ำขนาดไหน แต่ยังดีที่หายช้ำไวอยู่ เพราะเราประคบเย็นทั้งวันเลย พนักงานแนะนำมาว่าประคบเย็นบ่อยๆ จะช่วยลดช้ำลดบวมได้ดี แต่ก็หายช้ำไม่ทันวันไปทำงานอยู่ดี คือวันที่ 3 ยังเห็นว่าใต้ตายังเหลืองอยู่เลย หน้าก็ยังไม่ยุบ แถมจมูกบวมมากกก ทนใส่แมสปิดหน้าไปทำงาน ไม่วายก็มีเพื่อนร่วมงานมาถามจนได้ เป็นข่าวใหญ่ประจำออฟฟิศเลยค่า 555 คือเพื่อนก็ไม่คิดว่าเราจะกล้าไปทำศัลยกรรมด้วย แต่เพื่อนก็แอบลุ้นกับเราว่าทำออกมาแล้วจะดีมั้ย ถ้าดีก็จะไปทำด้วย 555 ครบ 7 วัน เราไปหาคุณหมออีกรอบ เพราะคุณหมอต้องเช็คว่าจมูกและหน้าเราเป็นยังไงบ้าง มีถามว่ายังเจ็บจมูกและตรงแผลที่ฉีด Fat transfer มั้ย แต่จริงๆ เราไม่เจ็บเลยค่ะ ต้องขอบคุณ คุณหมอที่เบามือกับเรา 555 ทุกอย่างโอเคหมดสำหรับเรา

laf10.jpg


หลังทำไป 1 เดือน เราต้องไปหาคุณหมออีกครั้งเพื่อเช็คว่ามีปัญหาอีกหรือไม่ ซึ่งเราชอบตรงนี้ ตรงที่คลินิกใส่ใจเรา ไม่ทำมาเสร็จก็ทิ้งให้ลูกค้าดูแลตัวเองแบบไม่รู้เหนือ รู้ใต้ ของเราถ้าเราสงสัยอะไรเราจะติดต่อถามจากทางคลินิกตลอด ซึ่งเค้าก็ให้คำตอบมาอย่างดีค่ะ ที่จริงตอนนี้คุณหมอบอกว่าหน้าเราเข้าที่เยอะแล้ว รออีก 2-3 เดือน น่าจะเข้าทีสุดๆ ให้เราอดใจรออีกนิดนึง

t1b11.jpg

หน้าไม่แบนราบเป็น 2 มิติแล้ว ตอนนี้หน้าดูมีมิติเป็น 3 มิติ 4 มิติก็มาค่ะ

wxc12.jpg

เทียบให้ดูก่อนทำหน้าและหลังทำหน้าไป 1 เดือนค่ะ

ตอนนี้เราเลยเริ่มหัดแต่งหน้ามากขึ้น และหัดแต่งตัวเยอะขึ้นด้วยค่ะ เพื่อนๆ หลายคนทั้งข้างนอกและที่ทำงานก็เริ่มทักว่าดูดีขึ้นนะตั้งแต่ไปทำหน้ามา มันทำให้เรารู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น ตอนนี้เรามีแผนว่าจะทำตาสองคะ ส่วนเรื่องทำจมูกแบบ Nose Reconstruction เราขอพักไว้ก่อน ตอนนี้จมูกนี้เราก็พอใจในระดับนึงอยู่แล้ว ปล่อยไว้เป็นเรื่องของอนาคตก่อนแล้วกันค่ะ

tis13.jpg

อันนี้รูปปัจจุบัน 2 เดือนแล้วเราลองแต่งหน้าเบาๆ ดูเป็นไงบ้างคะ

ใครที่อยากสวยขึ้นมั่นใจขึ้น ลองสังเกตใบหน้าตัวเองก่อนแบบเราก็ได้ค่ะ ว่าอยากปรับปรุงส่วนไหนก่อน หรือถ้าอยากศัลยกรรมไปเลย ก็ลองปรึกษากับคุณหมอก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าได้คุยกับคุณหมอที่เก่งๆ เราว่าดีตรงที่คุณหมอจะแนะนำได้เลยว่าควรปรับปรุงตรงไหนดี ใช้วิธีแบบไหนดี แล้วจะทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นด้วย ใครที่ต้องยกเครื่องหน้าเยอะๆ ก็ค่อยๆ ทำเหมือนเราก็ได้ค่ะ มีเงินก็ค่อยๆ ทำไป เอาที่เราสบายใจ และสบายกระเป๋าเงินด้วยนะ 555 อย่างตอนที่เราทำจมูกซิลิโคนเราได้ราคาโปรโมชั่นด้วย ราคาอยู่ที่ 22,000 บาทค่ะ ส่วน Fat transfer เห็นคุณหมอบอกว่าแต่ละคนราคาไม่เท่ากันนะคะ แล้วแต่คุณหมอประเมินเลยว่าเราเติมกี่จุด ใครสนใจลองไลน์ ไปถามที่ไลน์ @masterpiececlinic ก่อนได้นะคะ ที่จริงก็ถามได้หลายช่องทาง ทั้งหน้าเฟสบุ๊ค ไลน์ และโทร ส่วนใหญ่เวลาเราสงสัยเราจะไลน์ไปถามก่อนเลยค่ะง่ายดี ตอนนี้หน้าเราที่ทำมาดูมีมิติแล้วเราก็แต่งหน้าได้ง่ายขึ้น มั่นใจมากขึ้น ส่วนเรื่องทำตาสองชั้น เราว่าจะทำกับที่นี่แน่ๆ เพราะเชื่อในฝีมือคุณหมอค่ะ แต่ตอนนี้ขอเก็บเงินก่อน แล้วค่อยไปทำ ถ้ามีโอกาสจะมาอัพเดทให้ดูกันอีกนะคะ
 

chanika043

สมาชิกโดดเด่น
สมัครเมื่อ
22 กรกฎาคม 2017
โพสต์
359
สวยค่ะ หน้ามีมิติมากขึ้น
 
ด้านบน ด้านล่าง