lucas.louis
สมาชิกโดดเด่น
- สมัครเมื่อ
- 8 กรกฎาคม 2014
- โพสต์
- 44
โอ๊ยยยยย ถ้าจะให้พูดถึงกระแสความงามตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเมโสหน้าใสที่มีคนพูดถึงในช่วงนี้จ้า จริงๆแล้วเมโสหน้าใสและเมโสแฟตในวงการความสวยความงามที่มีมานานแล้วคร่าาา แต่ช่วงนี้เหมือนจะกลับมาดังอีกรอบ เพราะว่ามีเมโสที่ขายตามโลกโซเชียลในรูปแบบทำเองฉีดเองจ้า ขายเกลื่อน ราคาถูกมาก 200- 300 บาทเอง แต่อ้างสรรพคุณเว่อร์เกินจริง ถ้ายามันดีขนาดนั้นและเป็นยาที่มีส่วนผสมของสารสกัดดีๆทำไมขายถูกจัง ล่าสุดก็เพจหมอแล็บแพนด้าก็ออกมาเตือนสาวๆให้ระวังเมโสหน้าใสที่ขายตามโลกโซเชียล ให้ระวังถึงความปลอดภัย เพราะความจริงแล้วการทำเมโสต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำเท่านั้นนะ
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับเมโสหน้าใสให้มากขึ้นกันดีกว่าค่ะ จะได้ไขข้องสัยกันไปเลยจ้าาาาาา......
Mesotherapy (เมโสเทอราพี) หรือที่นิยมเรียกกันว่า เมโสหน้าใส เป็นการรักษาที่คิดค้นขึ้นในประเทศฝรั่งเศสเมื่อ 50 ปีก่อนโน่นนนนแหนะ ด้วยการฉีดยาหรือวิตามินที่ต้องการ ให้ออกฤทธิ์สู่ชั้นผิวหนังโดยตรงตื้นๆบริเวณชั้นผิวหนัง ช่วยแก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ฝ้า กระ รอยแผลเป็นสิว จุดด่างดำต่างๆคร่าา โดยใช้เข็มขนาดเล็ก ฉีดสารจำพวกวิตามินซี วิตามินบี กรดวิตามินเอ แอนติออกซิแดนท์ คอลลาเจนหรือสารบำรุงผิวอื่นๆ เข้าไป เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเซลล์ผิวจากภายใน เมื่อรักษาอย่างต่อเนื่อง ผิวหน้าจะขาวใส เรียบเนียนขึ้น ซึ่งจะให้ผลเร็วกว่าการทาครีมบำรุงผิวเพียงอย่างเดียว เพราะมีประสิทธิภาพในการผลักตัวยาให้ได้ผลอย่างล้ำลึก
แล้วฉีดเมโสเจ็บหรือไม่?????
ขึ้นอยู่กับระดับความลึกในการฉีดยา ถ้าเป็นชั้นหนังกำพร้า ก็รู้สึกคล้ายโดนสะกิด เพราะว่าเข็มที่ใช้มีขนาดเล็กมาก และแทงลงไปในชั้นผิวลึกประมาณ 5 – 10 mm เท่านั้น แต่ถ้าเป็นชั้นหนังแท้และชั้นไขมันจะค่อนข้างเจ็บ ต้องใช้ยาชาหรือการประคบน้ำแข็ง การฉีดมีหลายแบบ หลักๆแล้วแบ่งออกเป็น 3 แบบ จ้า
1. การสะกิดผิวหนังด้วยปลายเข็ม แล้วหยดสารลงไปให้ทั่วๆ หน้าและลำคอ (หน้าก็จะแดงหน่อยๆเพราะรอยเข็ม ไม่เจ็บ เหมือนมดกัดทั่วหน้าจ้า)
2. การฉีดสารปริมาณน้อยๆ เข้าไปในชั้นผิวหนัง (Intra Dermis - ID) หลายๆ จุดทั่วใบหน้า หลังฉีดจะเห็นตุ่มเล็กๆ เหมือนยุงกัดทั่วหน้า
3. การฉีดสารเข้าไปใต้ผิวหนังในตำแหน่งที่มีปัญหาเลย เช่น ฉีดเข้าไปใต้ฝ้า, ฉีดเข้าไปใต้จุดที่รูขุมขนกว้าง, การฉีดสลายไขมัน
ขั้นตอนการทำเมโสตังทำไงบ้าง???
- ทำความสะอาดผิวหน้า
- ทายาชาทั่วบริเวณหน้า แล้วทิ้งไว้ 30-45 นาที
- ลงเข็มทั่วใบหน้า ใช้เวลา 10-15 นาที (โดยเข็มมีขนาดความลึกต่างกันตั้งแต่ 0.25 - 2 mm) ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- ประคบเย็นด้วยเครื่องประคบ (อันนี้แล้วแต่จะทำจ้า)
- นอนพักหน้า 15-30 นาที เพราะหลังทำหน้าอาจจะแดงและมีอาการแสบร้อนจ้า
การดูแลตัวเองหลังทำเมโส
- ห้ามโดนแดดหลังทำเป็นเวลา 2 วัน
- ห้ามล้างหน้า 4-6 ชั่วโมงหลังทำ เพื่อให้ผิวดูดตัวยาที่ยังอยู่บนชั้นผิวให้ได้มากที่สุด
- หลัง 4-6 ชั่วโมง ให้ล้างหน้าและทาครีมบำรุงได้ตามปกติ แต่ห้ามทาครีมประเภทไวท์เทนนิ่ง หรือครีมหน้าขาวต่างๆ ให้เน้นครีมที่มีส่วนผสมของวิตามิน หรือแผ่นมาร์คหน้าสูตรวิตามินซีเข้มข้น เพราะเป็นช่วงที่ผิวหนังบริเวณใบหน้ากำลังดูดซึมได้ดีเยี่ยม
- หลังทำใบหน้าอาจเกิดรอยแดง หรือผื่นลักษณะเป็นตุ่มๆ แล้วแต่สภาพผิวของแต่ละคน ซึ่งจะหายไปเองภายใน 3 วัน
การฉีดเมโสหน้าใสเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัย ทำแล้วไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่ต้องได้รับการประเมินจากหมอหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่า ผิวหน้ามีปัญหาอะไร ต้องแก้ไขตรงจุดไหนบ้าง แพทย์จะให้คำแนะนำและเป็นผู้เลือกวิตามินหรือตัวยาชนิดต่างๆ เพื่อใช้ในการรักษาที่ตรงกับปัญหาของสภาพผิวของแต่ละคนมากที่สุด ดังนั้นควรเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและสถานที่ที่น่าเชื่อถือเท่านั้นนะ เพื่อตัวของเราเอง ทำเองหรือทำกับหมอกระเป๋าราคาไม่กี่ตัง หน้าพังมาแล้วหมดสวยไม่รู้ด้วยนะ
ใครที่เคยดูคลิปฉีดเมโสเองก็คงเห็นแล้วว่า ในคลิปไม่เรียกว่าสะเกิดด้วยซ้ำ เพราะมีรอยแดงอะไรเลย แค่เอาไปแตะๆที่หน้าแล้วดันยาออกมาให้เห็นป็นหยดๆ เกาะเต็มหน้าเท่านั้น อีกอย่างถ้าฉีดแบบสะกิดจริงก็ไม่ควรใช้มือลูบเพราะเชื่อโรคจากเล็บจะเข้าสู่ผิวได้หน้าได้เพราะหน้าเราเกิดแผลค่ะ ไม่ใส่ถุงมือด้วย เราแค่อยากมาเตือนว่า ก่อนทำก็ควรศึกษาข้อมูลให้เยอะๆไม่ใช่ว่าเห็นแก่ของถูกที่ขายตามอินเตอร์เน็ต สุดท้ายแล้วหน้าพังไม่คุมนะจ๊ะ เลือกดีๆก่อนตัดสินใจ ทำกับหมอและสถานทีที่น่าเชื่อถือ ดีสุดคร่าาาา...
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับเมโสหน้าใสให้มากขึ้นกันดีกว่าค่ะ จะได้ไขข้องสัยกันไปเลยจ้าาาาาา......
Mesotherapy (เมโสเทอราพี) หรือที่นิยมเรียกกันว่า เมโสหน้าใส เป็นการรักษาที่คิดค้นขึ้นในประเทศฝรั่งเศสเมื่อ 50 ปีก่อนโน่นนนนแหนะ ด้วยการฉีดยาหรือวิตามินที่ต้องการ ให้ออกฤทธิ์สู่ชั้นผิวหนังโดยตรงตื้นๆบริเวณชั้นผิวหนัง ช่วยแก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ฝ้า กระ รอยแผลเป็นสิว จุดด่างดำต่างๆคร่าา โดยใช้เข็มขนาดเล็ก ฉีดสารจำพวกวิตามินซี วิตามินบี กรดวิตามินเอ แอนติออกซิแดนท์ คอลลาเจนหรือสารบำรุงผิวอื่นๆ เข้าไป เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเซลล์ผิวจากภายใน เมื่อรักษาอย่างต่อเนื่อง ผิวหน้าจะขาวใส เรียบเนียนขึ้น ซึ่งจะให้ผลเร็วกว่าการทาครีมบำรุงผิวเพียงอย่างเดียว เพราะมีประสิทธิภาพในการผลักตัวยาให้ได้ผลอย่างล้ำลึก
แล้วฉีดเมโสเจ็บหรือไม่?????
ขึ้นอยู่กับระดับความลึกในการฉีดยา ถ้าเป็นชั้นหนังกำพร้า ก็รู้สึกคล้ายโดนสะกิด เพราะว่าเข็มที่ใช้มีขนาดเล็กมาก และแทงลงไปในชั้นผิวลึกประมาณ 5 – 10 mm เท่านั้น แต่ถ้าเป็นชั้นหนังแท้และชั้นไขมันจะค่อนข้างเจ็บ ต้องใช้ยาชาหรือการประคบน้ำแข็ง การฉีดมีหลายแบบ หลักๆแล้วแบ่งออกเป็น 3 แบบ จ้า
1. การสะกิดผิวหนังด้วยปลายเข็ม แล้วหยดสารลงไปให้ทั่วๆ หน้าและลำคอ (หน้าก็จะแดงหน่อยๆเพราะรอยเข็ม ไม่เจ็บ เหมือนมดกัดทั่วหน้าจ้า)
2. การฉีดสารปริมาณน้อยๆ เข้าไปในชั้นผิวหนัง (Intra Dermis - ID) หลายๆ จุดทั่วใบหน้า หลังฉีดจะเห็นตุ่มเล็กๆ เหมือนยุงกัดทั่วหน้า
3. การฉีดสารเข้าไปใต้ผิวหนังในตำแหน่งที่มีปัญหาเลย เช่น ฉีดเข้าไปใต้ฝ้า, ฉีดเข้าไปใต้จุดที่รูขุมขนกว้าง, การฉีดสลายไขมัน
ขั้นตอนการทำเมโสตังทำไงบ้าง???
- ทำความสะอาดผิวหน้า
- ทายาชาทั่วบริเวณหน้า แล้วทิ้งไว้ 30-45 นาที
- ลงเข็มทั่วใบหน้า ใช้เวลา 10-15 นาที (โดยเข็มมีขนาดความลึกต่างกันตั้งแต่ 0.25 - 2 mm) ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- ประคบเย็นด้วยเครื่องประคบ (อันนี้แล้วแต่จะทำจ้า)
- นอนพักหน้า 15-30 นาที เพราะหลังทำหน้าอาจจะแดงและมีอาการแสบร้อนจ้า
การดูแลตัวเองหลังทำเมโส
- ห้ามโดนแดดหลังทำเป็นเวลา 2 วัน
- ห้ามล้างหน้า 4-6 ชั่วโมงหลังทำ เพื่อให้ผิวดูดตัวยาที่ยังอยู่บนชั้นผิวให้ได้มากที่สุด
- หลัง 4-6 ชั่วโมง ให้ล้างหน้าและทาครีมบำรุงได้ตามปกติ แต่ห้ามทาครีมประเภทไวท์เทนนิ่ง หรือครีมหน้าขาวต่างๆ ให้เน้นครีมที่มีส่วนผสมของวิตามิน หรือแผ่นมาร์คหน้าสูตรวิตามินซีเข้มข้น เพราะเป็นช่วงที่ผิวหนังบริเวณใบหน้ากำลังดูดซึมได้ดีเยี่ยม
- หลังทำใบหน้าอาจเกิดรอยแดง หรือผื่นลักษณะเป็นตุ่มๆ แล้วแต่สภาพผิวของแต่ละคน ซึ่งจะหายไปเองภายใน 3 วัน
ตัวอย่างยาที่ขายในโลกออนไลน์
เมโสหน้าใสทำเอง ขายถูกมากกก ไม่รู้ว่าทำมาจากสารอะไร
เมโสหน้าใสทำเอง บอกว่ายามาจากเมืองนอก แต่จริงๆไม่รู้ว่ายามาจากไหน
การฉีดเมโสหน้าใสเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัย ทำแล้วไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่ต้องได้รับการประเมินจากหมอหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่า ผิวหน้ามีปัญหาอะไร ต้องแก้ไขตรงจุดไหนบ้าง แพทย์จะให้คำแนะนำและเป็นผู้เลือกวิตามินหรือตัวยาชนิดต่างๆ เพื่อใช้ในการรักษาที่ตรงกับปัญหาของสภาพผิวของแต่ละคนมากที่สุด ดังนั้นควรเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและสถานที่ที่น่าเชื่อถือเท่านั้นนะ เพื่อตัวของเราเอง ทำเองหรือทำกับหมอกระเป๋าราคาไม่กี่ตัง หน้าพังมาแล้วหมดสวยไม่รู้ด้วยนะ
ใครที่เคยดูคลิปฉีดเมโสเองก็คงเห็นแล้วว่า ในคลิปไม่เรียกว่าสะเกิดด้วยซ้ำ เพราะมีรอยแดงอะไรเลย แค่เอาไปแตะๆที่หน้าแล้วดันยาออกมาให้เห็นป็นหยดๆ เกาะเต็มหน้าเท่านั้น อีกอย่างถ้าฉีดแบบสะกิดจริงก็ไม่ควรใช้มือลูบเพราะเชื่อโรคจากเล็บจะเข้าสู่ผิวได้หน้าได้เพราะหน้าเราเกิดแผลค่ะ ไม่ใส่ถุงมือด้วย เราแค่อยากมาเตือนว่า ก่อนทำก็ควรศึกษาข้อมูลให้เยอะๆไม่ใช่ว่าเห็นแก่ของถูกที่ขายตามอินเตอร์เน็ต สุดท้ายแล้วหน้าพังไม่คุมนะจ๊ะ เลือกดีๆก่อนตัดสินใจ ทำกับหมอและสถานทีที่น่าเชื่อถือ ดีสุดคร่าาาา...
เมโสหน้าใสทำเอง บอกว่ายามาจากเมืองนอก แต่จริงๆไม่รู้ว่ายามาจากไหน