เล่าประสบการณ์ ร้อยไหม W-Type – Vifiny ยกแก้ม ลืมไปเลยว่าเคยหน้าเหี่ยว แก้มย้อย (ดูเลยภาพเยอะ !!)

[victoria]

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์การร้อยไหมให้ทุกคนได้ดูกันนะคะ ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวเองก่อน เราชื่อตองนะคะ เห็นหน้าเด็ก ๆ แบบนี้ (อิอิ ไม่ค่อยเข้าข้างตัวเองเท่าไหร่ ^^) อายุจะ 30 แล้วคร่า บวกกับตอนนี้เป็น AE ทำให้ต้องเจอกับลูกค้าเยอะ ออกไปข้างนอกบ่อย แหม่...ก็ใช้หน้าทุกวันเนอะ ก็ต้องมีเหี่ยว แก้มห้อยแก้มย้อย ไม่กระชับกันบ้าง นี่ก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้อยากไปร้อยไหม ตองเลยไปหาข้อมูล ตามคลินิกดัง ๆ ว่าเค้าใช้ตัวไหน และมันดียังไง ดูตามคลิป ตามรีวิวบ้าง จนสุดท้ายก็ตัดสินใจไปร้อยไหม ซึ่งคุณหมอก็ให้คำแนะนำที่ดีมาก ใจดีด้วย ตอนแรกก็แอบกลัวเหมือนกันนะ แต่พอคุณหมออธิบายวิธีการ และข้อดีของการร้อยไหมให้ฟัง ก็ทำให้ตองเข้าใจมากขึ้น ช่วยคลายความกลัวไปได้เยอะ
ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องการร้อยไหมให้ทุกคนเข้าใจกันก่อนเนอะ เท่าที่เราถามคุณหมอ และหาข้อมูลมาเนี่ย ไหมที่เค้านิยมร้อยไหมกัน ส่วนใหญ่คือ ไหม PDO ใช้สำหรับร้อยเพื่อความกระชับ ต่อต้านการเกิดริ้วรอย และกระตุ้นคอลลาเจนนั่นเอง แต่ถ้าใครหน้าหย่อนคล้อยมาก ๆ แบบแก้มเริ่มย้อยสุดพลังแล้วเนี่ย ไหม PDO จะเอาไม่อยู่ ต้องพึ่งไหมอีกหนึ่งชนิด นั่นก็คือ ไหม COG ค่ะ เพราะไหม COG นี้จะช่วยยกกระชับปรับรูปหน้าได้สุดพลัง (ดับเบิ้ลการยกกระชับเข้าไปอี๊กกก !!!) สามารถยกพวงแก้มที่ห้อย ๆ ให้ตึงกระชับขึ้นได้ ซึ่งไหมที่ตองจะร้อยนั้นก็คือ ไหม COG (W-Type) ของ Vifiny ที่นำเข้าจากประเทศเกาหลีนี่แหละจ้า

คุณหมอแนะนำให้เราทำตัวนี้ เพราะไหม COG (W-Type) ของ Vifiny มีความพิเศษอยู่ที่เส้นไหม มีความแข็งแรง เหนียว ไม่ขาดง่าย ช่วยในเรื่องการยกกระชับได้ดีเยี่ยมเลยล่ะค่ะ ยังไม่หมด ๆ ความสเปเชียลของนางยังมีอีกหนึ่งอย่างคือ เส้นไหมจะมีลักษณะเป็นแง่ง ๆ ยื่นออกมาซ้ายขวาสลับกัน คนอื่นอาจจะเรียกมันคล้ายก้างปลานะ แต่เราว่ามันเหมือนผมแตกปลายมากกว่า 5555+ ซึ่งคุณแง่ง ๆ ตรงนี้แหละคือ ความพิเศษของไหม W-Type ของ Vifiny ที่จะเป็นตัวเกี่ยว และช่วยดึงผิวให้ตึงได้มากยิ่งขึ้น ลองดูรูปที่อยู่ข้างบนดูนะคะ เห็นแง่ง ๆ ของไหม W-Type กันไหมจ๊ะ

ขั้นตอนแรก คุณหมอก็จะดูโครงหน้าของเราก่อน วางตำแหน่งที่จะร้อยไหม แต่ตองดันมีปัญหาร่องแก้มลึกอีก T^T ไหน ๆ วันนี้ก็มาแล้ว เลยอยากแก้ปัญหาให้หมดเลยทีเดียว จะได้สวยแบบเต็มสูบ 555+ จัดเลยค่ะ ร้อยไหมเสร็จก็ฉีดฟิลเลอร์ต่อ เราเลือกฉีด mesofiller ค่ะ เพราะมันเหมาะกับการเติมเต็มร่องแก้มลึก และโปรดักส์เค้าก็นำเข้ามาจากสเปนด้วย มาเริ่มขั้นตอนการร้อยไหมกันเลยดีกว่า...

จากนั้นเราก็มาเริ่มขั้นตอนการทำความสะอาดหน้ากันก่อนเลย จะได้ไม่เสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อ พอคลีนหน้าเสร็จก็ฉีดยาชา จะได้ไม่รู้สึกเจ็บตอนร้อยไหม ตอนฉีดตองก็รู้สึกแสบ ๆ นิด ๆ นะแต่ทนได้อยู่ รอแค่แปปเดียวเท่านั้นมันก็จะเริ่มรู้สึกชา ๆ จากนั้นก็จะเริ่มขั้นตอนการร้อยไหมกันเล้ยยยย ^^

ก่อนอื่นจะต้องใช้เข็มดรอยาเจาะเข้าไปในตำแหน่งที่จะร้อยไหมก่อน เพราะเข็มไหม COG (W-Type) ของ Vifiny ที่จะร้อยเนี้ย มันเป็นเข็มหัวทู่ ซึ่งข้อดีก็คือ ลดโอกาสในการเขียว บวม ช้ำ หลังจากการร้อยได้ดีกว่า เข็มปลายแหลมเย๊อะ ดี๊ดีอ่ะ อ๋อ...เกือบลืมบอกเคสของตองเนี้ย จะใช้ไหม W-Type ข้างละ 3 เส้นนะ คนอื่นอาจจะมากกว่านี้แล้วแต่กรณี แต่ของตองเท่านี้ก็โอเคแล้ว หลังจากนั้นเค้าก็จะเริ่มขั้นตอนการร้อยไหม โดยเจาะเข็มไหม W-Type เข้าไปในตำแหน่งที่วางไว้ จนครบ 3 เส้น แล้วหมอก็จะค่อย ๆ ดึง ให้ยกกระชับได้รูป มากที่สุด แล้วก็ตัดไหม แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย ตอนตัดไหมเสร็จ ไหมมันก็จะถูกกลืนเข้าไปใต้ผิวหนังของเราเอง แทบมองไม่เห็นเลยว่าร้อยไหมมา ทำแบบนี้อีกหนึ่งข้าง เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย ตอนร้อยไหมเสร็จใหม่ ๆ ก็จะรู้สึกเสียว ๆ ตึง ๆ หน้า นิดหน่อยแค่นั้นเองจ้า

หลังจากร้อยไหมเสร็จ ก็อย่างที่บอกไปว่า ตองยังมีอีกหนึ่งปัญหาคือ ร่องแก้มลึก จัดเลยค่ะ งานฟิลเลอร์ต้องมา คุณหมอเล็งตำแหน่งที่จะฉีด และก็เริ่มขั้นตอนการฉีด mesofiller ต้องบอกว่าหลังจากร้อยไหม และฉีดฟิลเลอร์เสร็จ ตองรู้สึกแฮปปี้มาก ๆ เลยค่ะ เพราะเห็นว่าหน้ามันยกกระชับขึ้น และปัญหาร่องแก้มลึกของตองก็ตื้นขึ้นจริง กริ๊ดดดดดดเลยจร้า

ตองอยากบอกว่าประทับใจในตัวคุณหมอ และการบริการของคลินิกที่นี่มากค่ะ หมอมือเบา พนักงานก็พูดจาดี เอาไปเลย 10 10 10 ถ้าใครที่มีปัญหาแบบเดียวกับตอง ลองไปใช้วิธีนี้กันดูได้นะคะ ผลลัพธ์ของมันจะอยู่ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี ส่วนฟิลเลอร์จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน และก็จะสลายไปเองตามธรรมชาติ แต่ต้องบอกก่อนนะว่า ผลลัพธ์ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคลนะคะ ใครอยากหน้ายกกระชับ แก้มไม่ห้อยย้อย ลองไปร้อยไหมกันดูนะจ๊ะ แล้วจะรู้สึกแฮปปี้เหมือนตองคร่า จบปิ้ง !!!