สวัสดีเพื่อนๆ ที่เข้ามาดูรีวิวของเราทุกคนเลย ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวกันก่อน ผมชื่อ เป้ ครับผม ที่ผมตัดสินใจเสริมจมูกเพราะผมคิดว่ามันเป็นการพัฒนาตัวเองอย่างหนึ่ง ยิ่งสมัยนี้ใบหน้าเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญมากๆ เพราะฉะนั้นแล้วสำหรับผมการเสริมจมูกจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและทำให้เรามีบุคลิกภาพที่ดียิ่งขึ้น ก่อนจะดูรูปหล่อๆ ไปดูรูปก่อนทำก่อนเลย อย่าตกใจกันเด้อ 5555
หลังจากที่คิดแล้วคิดอีกจนมั่นใจว่าอยากเสริมจมูกจริงๆ ผมก็เริ่มหาข้อมูล รีวิวของคลินิกต่างๆ เพื่อความปลอดภัยและความหล่อครับ 555 หาข้อมูลมาหลายคลินิกมากๆ เท่าที่เจอคือราคาก็ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่ แต่มีที่นึงต่างจากที่อื่นมากๆ คือมีรีวิวให้ดูเยอะ และแทบจะทุกรีวิวมีอาการช้ำและบวมหลังผ่าตัดน้อยมาก แต่ละคนทำออกมาแล้วสวยหล่อกันทั้งนั้น แถมราคาก็อยู่ในงบที่เราสู้ได้ ผมตัดสินใจทันทีเลยว่าจะเสริมจมูกที่นี่ ที่เอเมดคลินิก วันที่ไปถึงคลินิกเราตื่นเต้นมากกกก เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องขึ้นเขียง เอ้ย! ขึ้นเตียงทำศัลยกรรม แต่พอได้คุยกับ พี่ๆ พนักงานที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ทำให้เราหายตื่นเต้นไปเลย พี่ๆ บริการดีมากครับ คุณหมอก็ใจดี ท่านจะสอบถามเราก่อนว่าเราต้องการแบบไหน แล้วท่านก็จะอธิบายและดีไซน์ให้เข้ากับใบหน้าของเราครับ
และแล้วก็ถึงคิวของผมที่เข้าห้องผ่าตัด ตอนที่ฉีดยาชาวินาทีนั้นทุกคนที่เคยเสริมจมูกคงจะทราบดีว่าเจ็บแค่ไหน แต่ผมก็ผ่านมันมาได้ หลังจากนั้นก็เป็นขั้นตอนของการเสริมครับ ผมรู้สึกได้ในทุกขั้นตอนของการเสริมจมูก ตั้งแต่แหก ยัด เย็บ มันจะตึงๆ แต่ไม่เจ็บนะ และรู้สึกได้เลยว่าคุณหมอมือเบามากๆ พอเสริมเสร็จแล้ว พี่ๆ ก็จะเอากระจกให้ส่อง บอกเลย "โด่ง เป๊ะ ปัง มาก" แถมยังบวมน้อยช้ำน้อยมากด้วย พอใจมากครับ ก่อนออกมาคุณหมอก็จะติดพลาสเตอร์ให้เพื่อยึดซิลิโคนเอาไว้
หลังจากทำเสร็จแล้ว ความตื่นเต้นที่มีก็หายไปหมดเลยครับ เหลือไว้แค่ความรู้สึกตึงๆ บริเวณจมูก 555 พอออกจากคลินิกผมก็เริ่มประคบเย็นเลย กลับถึงห้องก็อาบน้ำ แต่ไม่ได้โดนแผล เพราะผมไม่ได้ล้างหน้า แต่ใช้ cleansing water เช็ดทำความสะอาดหน้าครับ ส่วนแผลผมใช้คัตเติ้ลบัตชุบน้ำเกลือเช็ดทำความสะอาด และใส่ povidine เพื่อฆ่าเชื้อโรค และรับประทานยาตามหมอสั่งตรงตามเวลา ผมประคบเย็นเป็นเวลา 3 วันครับ หลังจากนั้นก็ประคบร้อน สำหรับพลาสเตอร์ที่ติดแผลไว้ผมแกะออกวันที่ 5 ครับ เพราะหน้ามันมาก พอครบ 1 สัปดาห์ก็สามารถล้างหน้าได้ครับ และที่สำคัญต้องไป follow up ตามที่คุณหมอนัดครับ
ถอดพลาสเตอร์ออกแล้ว บวม+ช้ำน้อยมาก
ดูสิ รอยช้ำแทบจะหาไม่เจอ
1 – 2 เดือนก็ดูดีขึ้นแล้ว แฮปปี้มาก
หลังจากเสริมจมูกมาได้สักพัก คนทักใหญ่เลยว่าไปทำอะไรมา ดูคมขึ้น หล่อขึ้น 555 ผมว่ามันจริงนะ จมูกโด่งมากขึ้น หน้าเปลี่ยนดูดีขึ้นครับ แต่ก่อนถ่ายรูปทีไรต้องบีบอัดรูปภาพ แต่งก่อนอัพตลอด แต่ตอนนี้ถ่ายแล้วอัพได้เลย ไม่ต้องเสริมแต่งโดยใช้แอพ ^^ ขอบคุณเอเมดคลินิกที่ให้ความมั่นใจครั้งนี้กับผมครับ หากมีโอกาสเสริมหล่ออีกครั้งผมต้องไปที่เอเมดคลินิกอีกแน่นอนครับ " ความหล่อนี้ชั่วนิรันดร์ " ^_^
หลังจากที่คิดแล้วคิดอีกจนมั่นใจว่าอยากเสริมจมูกจริงๆ ผมก็เริ่มหาข้อมูล รีวิวของคลินิกต่างๆ เพื่อความปลอดภัยและความหล่อครับ 555 หาข้อมูลมาหลายคลินิกมากๆ เท่าที่เจอคือราคาก็ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่ แต่มีที่นึงต่างจากที่อื่นมากๆ คือมีรีวิวให้ดูเยอะ และแทบจะทุกรีวิวมีอาการช้ำและบวมหลังผ่าตัดน้อยมาก แต่ละคนทำออกมาแล้วสวยหล่อกันทั้งนั้น แถมราคาก็อยู่ในงบที่เราสู้ได้ ผมตัดสินใจทันทีเลยว่าจะเสริมจมูกที่นี่ ที่เอเมดคลินิก วันที่ไปถึงคลินิกเราตื่นเต้นมากกกก เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องขึ้นเขียง เอ้ย! ขึ้นเตียงทำศัลยกรรม แต่พอได้คุยกับ พี่ๆ พนักงานที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ทำให้เราหายตื่นเต้นไปเลย พี่ๆ บริการดีมากครับ คุณหมอก็ใจดี ท่านจะสอบถามเราก่อนว่าเราต้องการแบบไหน แล้วท่านก็จะอธิบายและดีไซน์ให้เข้ากับใบหน้าของเราครับ
และแล้วก็ถึงคิวของผมที่เข้าห้องผ่าตัด ตอนที่ฉีดยาชาวินาทีนั้นทุกคนที่เคยเสริมจมูกคงจะทราบดีว่าเจ็บแค่ไหน แต่ผมก็ผ่านมันมาได้ หลังจากนั้นก็เป็นขั้นตอนของการเสริมครับ ผมรู้สึกได้ในทุกขั้นตอนของการเสริมจมูก ตั้งแต่แหก ยัด เย็บ มันจะตึงๆ แต่ไม่เจ็บนะ และรู้สึกได้เลยว่าคุณหมอมือเบามากๆ พอเสริมเสร็จแล้ว พี่ๆ ก็จะเอากระจกให้ส่อง บอกเลย "โด่ง เป๊ะ ปัง มาก" แถมยังบวมน้อยช้ำน้อยมากด้วย พอใจมากครับ ก่อนออกมาคุณหมอก็จะติดพลาสเตอร์ให้เพื่อยึดซิลิโคนเอาไว้
หลังจากทำเสร็จแล้ว ความตื่นเต้นที่มีก็หายไปหมดเลยครับ เหลือไว้แค่ความรู้สึกตึงๆ บริเวณจมูก 555 พอออกจากคลินิกผมก็เริ่มประคบเย็นเลย กลับถึงห้องก็อาบน้ำ แต่ไม่ได้โดนแผล เพราะผมไม่ได้ล้างหน้า แต่ใช้ cleansing water เช็ดทำความสะอาดหน้าครับ ส่วนแผลผมใช้คัตเติ้ลบัตชุบน้ำเกลือเช็ดทำความสะอาด และใส่ povidine เพื่อฆ่าเชื้อโรค และรับประทานยาตามหมอสั่งตรงตามเวลา ผมประคบเย็นเป็นเวลา 3 วันครับ หลังจากนั้นก็ประคบร้อน สำหรับพลาสเตอร์ที่ติดแผลไว้ผมแกะออกวันที่ 5 ครับ เพราะหน้ามันมาก พอครบ 1 สัปดาห์ก็สามารถล้างหน้าได้ครับ และที่สำคัญต้องไป follow up ตามที่คุณหมอนัดครับ
ถอดพลาสเตอร์ออกแล้ว บวม+ช้ำน้อยมาก
ดูสิ รอยช้ำแทบจะหาไม่เจอ
1 – 2 เดือนก็ดูดีขึ้นแล้ว แฮปปี้มาก
หลังจากเสริมจมูกมาได้สักพัก คนทักใหญ่เลยว่าไปทำอะไรมา ดูคมขึ้น หล่อขึ้น 555 ผมว่ามันจริงนะ จมูกโด่งมากขึ้น หน้าเปลี่ยนดูดีขึ้นครับ แต่ก่อนถ่ายรูปทีไรต้องบีบอัดรูปภาพ แต่งก่อนอัพตลอด แต่ตอนนี้ถ่ายแล้วอัพได้เลย ไม่ต้องเสริมแต่งโดยใช้แอพ ^^ ขอบคุณเอเมดคลินิกที่ให้ความมั่นใจครั้งนี้กับผมครับ หากมีโอกาสเสริมหล่ออีกครั้งผมต้องไปที่เอเมดคลินิกอีกแน่นอนครับ " ความหล่อนี้ชั่วนิรันดร์ " ^_^
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก
- หน้าเด็กกว่าเดิมด้วยการยกคิ้วนะคะ