- เข้าร่วม
- 23 กันยายน 2013
- ข้อความ
- 51
ชื่อ "นู๋หนึ่ง" ค๊าาา...
วันนี้จะมาขอเม้ามอยรีวิวสรุปรวบให้เพื่อนๆ ฟังกันว่าผ่านมาปีกว่าๆ
กว่าที่จะได้ดวงตาคู่สวยแสนทรงคุณค่าคู่นี้มาเราต้องผ่านอะไรมาบ้างนะคะ
แต่ขอบอกเลยว่า...กว่าจะสวยได้ดั่งใจเนี่ย เจออุปสรรคมาหลายต่อเลยทีเดียว
ไปดูกันเลยจ้าาา ก่อนอื่นขอประเดิมด้วยรูปก่อนเลยแล้วกันนะจ๊ะ...ปิ๊งงง!!
เราเข้าร่วมสมัครโปรเจ็คนี้เพราะอยากจะสะบัดบ๊อบ
ในสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นค่ะ ติดมาเป็นสิบๆ ปีเบื่อขี้หน้ามันมาก
และเมื่อประมาณปลายปี 2013 เราได้รับข่าวดีว่า...
"เป็นผู้โชคดีได้ทำตาสองชั้นกับคุณหมอนก ที่ Century Health Clinic"
ดีใจมากเลยค่ะตื่นเต้นๆ แต่กว่าจะได้ทำจริงๆ
ก็คือเดือน กุมภาพันธ์ 2014 ยอมรับเลยว่า...
นี่คือ *** การศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิต ***
เราไปที่คลีนิคแบบตื่นๆ แบ๊วมากกกกกก แทบไม่รู้อะไรเลย
ไปพร้อมสโลแกนที่ว่า ..."หมอว่าดี เราก็ว่าดี" (ดูนางใสๆ ไร้สติสิ้นดี 555)
กว่าจะได้เจอหน้าคุณหมอ เราก็นอนอืดอยู่บนเตียงแล้วค่ะ
คุณหมอก็มาวัดกะขนาดชั้นตา แล้วก็ผ่าเลยค่ะ
ได้คุยกันแค่นิดหน่อยเอง ซึ่งการทำครั้งนี้คือ...
"การกรีดตาแบบแผลเล็ก" ค่ะ
4 เดือนต่อมา... เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก
บททดสอบ "อุปสรรคที่ 1 ก็เริ่มบังเกิด"
ผ่าง !!! ทำไมนับวันชั้นตาเรามันยิ่งเล็กลงหว่า?
แล้วไหงกลายเป็น...ตาสองชั้นหลบใน ซะงั้นละ?
ไม่รีรอช้ารีบแว๊นไปหาปรึกษาคุณหมอนกทันที
ไปดูรูปกันจ้า...
มองเห็นตัวหนังสือในภาพกันไหมคะเนี่ย? (ทำไมมันตัวเล็กจังเนอะ)
รอบนี้ทุกอย่างดูดีขึ้นมาก เพราะเราได้ทำความเข้าใจกับคุณหมอจริงๆ ก่อนผ่าอีกครั้ง
คุณหมอนกและเราต่างเข้าใจตรงกันแล้วว่า...
ความต้องการของอีกฝ่ายคือแบบไหน? เมื่อทุกอย่างลงตัว
ก็เข้าห้องผ่าตัดกันเลยค๊าาาาา
ซึ่งการผ่าตัดครั้งที่ 2 นี้คือ...
"การกรีดตาแบบแผลยาวหางหงษ์" ค่ะ
การกรีดตาแบบแผลยาวนี้ จะเหมาะกับผู้ที่มีไขมันและเนื้อตาค่อนข้างมากนะคะ
จะได้ชัดตาที่ชัดและยังสามารถตกแต่งชั้นตาส่วนเกินทิ้งไปด้วยในคราวเดียวกันเลยค่ะ
อารมณ์ทำเสร็จตาตึงกันเลยทีเดียว ทำเสร็จออกมาชอบมากค่ะ
ถึงแผลจะดูยาวไปนิด เรื่องแผลเป็นเราไม่ได้กังวลใดๆ
เพราะเวลาผ่านไปถ้าเราดูแลทายาดีๆ มันจะกลืนหายไปเองตามกาลเวลาค่ะ
อีกอย่างแต่งหน้าก็ไม่เห็นแล้วค่ะ ขนตาบังหมด 5555
และแล้ว 3 เดือนก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก
บททดสอบ "อุปสรรคที่ 2 ก็เริ่มบังเกิด" (อีกแล้วววววววววว แงๆ)
ผ่าง !!! ... พอเนื้อตาเริ่มยุบสิ่งที่เกิดขึ้นมาให้เราเห็นชัดเจนก็คือ...
"ติ่งเนื้อกระจิ๊ดริด โดนเป็นจี๊ดๆ มันต้องมีไหมค้างอยู่แน่ๆ
และเพราะติ่งนี้มันเลยทำให้ชั้นตาเราไม่เท่ากันค่ะ"
ปล. ไหมที่ค้างอยู่อันนี้สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นไหมที่ขาดเอง
ในช่วงก่อนรอตัดไหมค่ะ และเหลืออยู่ใต้ผิวเราเลยทำให้
ผู้ช่วยที่ตัดไหมมองไม่เห็นจึงไม่สามารถเอาออกได้ค่ะ
ขนาดตัวเรายังไม่รู้เลยว่ามีมันอยู่ คนอื่นจะรู้ไหมเนี่ย
นู๋หนึ่งไม่รีรอช้ารีบแว๊นไปหาปรึกษาคุณหมอนกทันทีอีกรอบ (เอ๊ะ ! ประโยคนี้คุ้นๆ เนอะ )
รอบนี้ไม่เจอคุณหมอนะคะ แต่ผู้ช่วยนางพยาบาลเป็นคนสะกิดเอาออกให้
ไปดูรูปกันจ้า...
แต่ แต่ แต่ แต่..................
เพราะไอ้ไหมมหาประลัยอันนี้ค่ะ มันทำให้ชั้นตาเราไม่เท่ากัน ฮือๆ
ตอนแรกก็คิดว่าพอสะกิดไอ้ติ่งนี้ออกชั้นตามันจะพับเท่ากัน
แต่มันหาเป็นเช่นนั้นไม่ !!!! ไอ้ติ่งเวรรูนี่นั่นมันดันไปทำให้ชั้นตาข้างขวาของเรา
ไปพับตามรอยกรีดแผลเล็กที่ทำครั้งแรกค่ะ เกลียดมานนนนนนนน...
พอรู้สาเหตุแล้วแน่ใจชัวร์ๆ ว่าเราไม่ได้เป็นคุณนายสายมโนคิดไปเอง
นู๋หนึ่งจะไม่ทนค่ะ ไม่รีรอช้ารีบแว๊นไปหาปรึกษาคุณหมอนกทันที ( รอบที่ 3 )
คุณหมอนกเห็นหน้าเราคงคิดในใจว่า
"เอ๊ะ ชะนีนี่มันมาอีกแล้วววววว 5555" อันนี้เราคิดเองขำๆ นะคะ อิอิ
คุณหมอน่ารักมากกกกกกกกกกๆ (ก.ไก่ล้านตัว) เลยค่ะ
รีบแก้ไขให้เราเลย ถือว่าเป็นคุณหมอที่น่ารักและมีความรับผิดชอบมากๆ
นี่ขนาดเคสเราเป็นเคสฟรีนะคะเนี่ย ขอกราบบบบบบบบบ....งามๆ ค่ะ
ซึ่งการผ่าตัดครั้งที่ 3 นี้คือ...
"การกรีดสร้างชั้นตาข้างขวาใหม่" ค่ะ
การผ่าตัดเสร็จสิ้น ครั้งนี้เราค่อนข้างแฮปปี้มากค่ะ
เพราะไม่มีอุปสรรคอะไรมาขวางตาสวยๆ คู่นี้อีกแล้ว 55555
เราได้ชั้นตาที่สวยสมใจแล้วค่ะ เย่ๆๆๆๆ
และแล้ว 6 เดือนก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก
สุดท้ายนี้เรามีเรื่องอยากจะบอกต่อเพื่อนๆ ว่า...
คุณหมอศัลยกรรมมีเยอะแยะ กราดเกลื่อนเต็มไปหมดค่ะ
แต่คุณหมอที่น่ารัก รับผิดชอบต่อผลงาน และดูแลเราอย่างดีนั้นมีอยู่ไม่มากนะคะ
การจะทำศัลยกรรมทุกครั้งเพื่อนๆ ควรศึกษาข้อมูลให้เพียงพอ
เพื่อป้องกันการผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น
คุณหมอแต่ละท่านไม่ใช่ผู้วิเศษนะคะ ใครที่โชคดีทำครั้งเดียวแล้วสวย
ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยเค้าทำบุญมาดี 5555
ส่วนคนที่ต้องแก้หลายรอบแบบเรานั้น ก็ไม่ใช่เพราะคลีนิคหรือคุณหมอ
ไม่ตั้งใจทำนะคะ ส่วนหนึ่งก็ต้องโทษหนังหน้าเราด้วยที่มันไม่รักดีเอง
สงสัยอยากเจ็บหลายรอบเนอะ ส่วนตัวเราไม่ได้โทษใครเลยค่ะ
เพราะทุกครั้งที่มีปัญหาคุณหมอก็แก้ไขให้เราอย่างดีเลย แฮปปี้
หรือด้วยเพราะผ่านการแก้มาหลายรอบกว่าจะได้สมดั่งใจ
เราเลยรู้สึกรัก ตาคู่นี้มากขึ้นกว่าเดิมมากๆ
เวลาแต่งหน้าก็ไม่ต้องติดสติกเกอร์แล้ว (สะบัดบ๊อบใส่มันจริงๆ ได้สักที)
เขียนอายไลเนอร์ ติดขนตา แต่งหน้าก็ดูสวย มั่นใจขึ้นกว่าเดิมมากๆ
ใช้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ
สุดท้ายแล้วต้องขอขอบคุณทาง ...
Century Health Clinic และทางเว็ป http://www.dodeden.com
ที่จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ขึ้นมาด้วยนะคะ จุ๊บๆๆๆๆ
วันนี้จะมาขอเม้ามอยรีวิวสรุปรวบให้เพื่อนๆ ฟังกันว่าผ่านมาปีกว่าๆ
กว่าที่จะได้ดวงตาคู่สวยแสนทรงคุณค่าคู่นี้มาเราต้องผ่านอะไรมาบ้างนะคะ
แต่ขอบอกเลยว่า...กว่าจะสวยได้ดั่งใจเนี่ย เจออุปสรรคมาหลายต่อเลยทีเดียว
ไปดูกันเลยจ้าาา ก่อนอื่นขอประเดิมด้วยรูปก่อนเลยแล้วกันนะจ๊ะ...ปิ๊งงง!!
เราเข้าร่วมสมัครโปรเจ็คนี้เพราะอยากจะสะบัดบ๊อบ
ในสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นค่ะ ติดมาเป็นสิบๆ ปีเบื่อขี้หน้ามันมาก
และเมื่อประมาณปลายปี 2013 เราได้รับข่าวดีว่า...
"เป็นผู้โชคดีได้ทำตาสองชั้นกับคุณหมอนก ที่ Century Health Clinic"
ดีใจมากเลยค่ะตื่นเต้นๆ แต่กว่าจะได้ทำจริงๆ
ก็คือเดือน กุมภาพันธ์ 2014 ยอมรับเลยว่า...
นี่คือ *** การศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิต ***
เราไปที่คลีนิคแบบตื่นๆ แบ๊วมากกกกกก แทบไม่รู้อะไรเลย
ไปพร้อมสโลแกนที่ว่า ..."หมอว่าดี เราก็ว่าดี" (ดูนางใสๆ ไร้สติสิ้นดี 555)
กว่าจะได้เจอหน้าคุณหมอ เราก็นอนอืดอยู่บนเตียงแล้วค่ะ
คุณหมอก็มาวัดกะขนาดชั้นตา แล้วก็ผ่าเลยค่ะ
ได้คุยกันแค่นิดหน่อยเอง ซึ่งการทำครั้งนี้คือ...
"การกรีดตาแบบแผลเล็ก" ค่ะ
4 เดือนต่อมา... เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก
บททดสอบ "อุปสรรคที่ 1 ก็เริ่มบังเกิด"
ผ่าง !!! ทำไมนับวันชั้นตาเรามันยิ่งเล็กลงหว่า?
แล้วไหงกลายเป็น...ตาสองชั้นหลบใน ซะงั้นละ?
ไม่รีรอช้ารีบแว๊นไปหาปรึกษาคุณหมอนกทันที
ไปดูรูปกันจ้า...
มองเห็นตัวหนังสือในภาพกันไหมคะเนี่ย? (ทำไมมันตัวเล็กจังเนอะ)
รอบนี้ทุกอย่างดูดีขึ้นมาก เพราะเราได้ทำความเข้าใจกับคุณหมอจริงๆ ก่อนผ่าอีกครั้ง
คุณหมอนกและเราต่างเข้าใจตรงกันแล้วว่า...
ความต้องการของอีกฝ่ายคือแบบไหน? เมื่อทุกอย่างลงตัว
ก็เข้าห้องผ่าตัดกันเลยค๊าาาาา
ซึ่งการผ่าตัดครั้งที่ 2 นี้คือ...
"การกรีดตาแบบแผลยาวหางหงษ์" ค่ะ
การกรีดตาแบบแผลยาวนี้ จะเหมาะกับผู้ที่มีไขมันและเนื้อตาค่อนข้างมากนะคะ
จะได้ชัดตาที่ชัดและยังสามารถตกแต่งชั้นตาส่วนเกินทิ้งไปด้วยในคราวเดียวกันเลยค่ะ
อารมณ์ทำเสร็จตาตึงกันเลยทีเดียว ทำเสร็จออกมาชอบมากค่ะ
ถึงแผลจะดูยาวไปนิด เรื่องแผลเป็นเราไม่ได้กังวลใดๆ
เพราะเวลาผ่านไปถ้าเราดูแลทายาดีๆ มันจะกลืนหายไปเองตามกาลเวลาค่ะ
อีกอย่างแต่งหน้าก็ไม่เห็นแล้วค่ะ ขนตาบังหมด 5555
และแล้ว 3 เดือนก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก
บททดสอบ "อุปสรรคที่ 2 ก็เริ่มบังเกิด" (อีกแล้วววววววววว แงๆ)
ผ่าง !!! ... พอเนื้อตาเริ่มยุบสิ่งที่เกิดขึ้นมาให้เราเห็นชัดเจนก็คือ...
"ติ่งเนื้อกระจิ๊ดริด โดนเป็นจี๊ดๆ มันต้องมีไหมค้างอยู่แน่ๆ
และเพราะติ่งนี้มันเลยทำให้ชั้นตาเราไม่เท่ากันค่ะ"
ปล. ไหมที่ค้างอยู่อันนี้สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นไหมที่ขาดเอง
ในช่วงก่อนรอตัดไหมค่ะ และเหลืออยู่ใต้ผิวเราเลยทำให้
ผู้ช่วยที่ตัดไหมมองไม่เห็นจึงไม่สามารถเอาออกได้ค่ะ
ขนาดตัวเรายังไม่รู้เลยว่ามีมันอยู่ คนอื่นจะรู้ไหมเนี่ย
นู๋หนึ่งไม่รีรอช้ารีบแว๊นไปหาปรึกษาคุณหมอนกทันทีอีกรอบ (เอ๊ะ ! ประโยคนี้คุ้นๆ เนอะ )
รอบนี้ไม่เจอคุณหมอนะคะ แต่ผู้ช่วยนางพยาบาลเป็นคนสะกิดเอาออกให้
ไปดูรูปกันจ้า...
แต่ แต่ แต่ แต่..................
เพราะไอ้ไหมมหาประลัยอันนี้ค่ะ มันทำให้ชั้นตาเราไม่เท่ากัน ฮือๆ
ตอนแรกก็คิดว่าพอสะกิดไอ้ติ่งนี้ออกชั้นตามันจะพับเท่ากัน
แต่มันหาเป็นเช่นนั้นไม่ !!!! ไอ้ติ่งเวรรูนี่นั่นมันดันไปทำให้ชั้นตาข้างขวาของเรา
ไปพับตามรอยกรีดแผลเล็กที่ทำครั้งแรกค่ะ เกลียดมานนนนนนนน...
พอรู้สาเหตุแล้วแน่ใจชัวร์ๆ ว่าเราไม่ได้เป็นคุณนายสายมโนคิดไปเอง
นู๋หนึ่งจะไม่ทนค่ะ ไม่รีรอช้ารีบแว๊นไปหาปรึกษาคุณหมอนกทันที ( รอบที่ 3 )
คุณหมอนกเห็นหน้าเราคงคิดในใจว่า
"เอ๊ะ ชะนีนี่มันมาอีกแล้วววววว 5555" อันนี้เราคิดเองขำๆ นะคะ อิอิ
คุณหมอน่ารักมากกกกกกกกกกๆ (ก.ไก่ล้านตัว) เลยค่ะ
รีบแก้ไขให้เราเลย ถือว่าเป็นคุณหมอที่น่ารักและมีความรับผิดชอบมากๆ
นี่ขนาดเคสเราเป็นเคสฟรีนะคะเนี่ย ขอกราบบบบบบบบบ....งามๆ ค่ะ
ซึ่งการผ่าตัดครั้งที่ 3 นี้คือ...
"การกรีดสร้างชั้นตาข้างขวาใหม่" ค่ะ
การผ่าตัดเสร็จสิ้น ครั้งนี้เราค่อนข้างแฮปปี้มากค่ะ
เพราะไม่มีอุปสรรคอะไรมาขวางตาสวยๆ คู่นี้อีกแล้ว 55555
เราได้ชั้นตาที่สวยสมใจแล้วค่ะ เย่ๆๆๆๆ
และแล้ว 6 เดือนก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก
สุดท้ายนี้เรามีเรื่องอยากจะบอกต่อเพื่อนๆ ว่า...
คุณหมอศัลยกรรมมีเยอะแยะ กราดเกลื่อนเต็มไปหมดค่ะ
แต่คุณหมอที่น่ารัก รับผิดชอบต่อผลงาน และดูแลเราอย่างดีนั้นมีอยู่ไม่มากนะคะ
การจะทำศัลยกรรมทุกครั้งเพื่อนๆ ควรศึกษาข้อมูลให้เพียงพอ
เพื่อป้องกันการผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น
คุณหมอแต่ละท่านไม่ใช่ผู้วิเศษนะคะ ใครที่โชคดีทำครั้งเดียวแล้วสวย
ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยเค้าทำบุญมาดี 5555
ส่วนคนที่ต้องแก้หลายรอบแบบเรานั้น ก็ไม่ใช่เพราะคลีนิคหรือคุณหมอ
ไม่ตั้งใจทำนะคะ ส่วนหนึ่งก็ต้องโทษหนังหน้าเราด้วยที่มันไม่รักดีเอง
สงสัยอยากเจ็บหลายรอบเนอะ ส่วนตัวเราไม่ได้โทษใครเลยค่ะ
เพราะทุกครั้งที่มีปัญหาคุณหมอก็แก้ไขให้เราอย่างดีเลย แฮปปี้
หรือด้วยเพราะผ่านการแก้มาหลายรอบกว่าจะได้สมดั่งใจ
เราเลยรู้สึกรัก ตาคู่นี้มากขึ้นกว่าเดิมมากๆ
เวลาแต่งหน้าก็ไม่ต้องติดสติกเกอร์แล้ว (สะบัดบ๊อบใส่มันจริงๆ ได้สักที)
เขียนอายไลเนอร์ ติดขนตา แต่งหน้าก็ดูสวย มั่นใจขึ้นกว่าเดิมมากๆ
ใช้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ
สุดท้ายแล้วต้องขอขอบคุณทาง ...
Century Health Clinic และทางเว็ป http://www.dodeden.com
ที่จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ขึ้นมาด้วยนะคะ จุ๊บๆๆๆๆ
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- Endotine คืออะไร ใครควรทำ
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก