haefon5555
สมาชิกโดดเด่น
- สมัครเมื่อ
- 26 กรกฎาคม 2017
- โพสต์
- 18
กระทู้นี้เกิดขึ้นมาได้เพราะคำสบประมาททุกคำที่ได้รับมา จนเกิดความอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง และเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยู่สถานการณ์แบบเดียวกัน ขอให้ฮึดสู้เข้าไว้
..จากเด็กหน้าเหลี่ยมกรามใหญ่ดั้งแหมบ...ตัวดำ ๆ ไปไหนก็มีแต่คนล้อ..
สวัสดีค่ะทุกคนนน หนูขอแนะนำตัวก่อนเลยน้า หนูชื่อฝนนะคะ แต่ชอบเรียกตัวเองว่าอาฝน เพราะอยากดูเก๋ ๆ ขึ้นมาบ้าง 555 นี่เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรกในพันทิปที่ตั้งใจมากๆเพราะอยากให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของฝนแบบเต็มๆ เขียนผิดอะไรตรงไหนติชมกันได้เลยนะคะ
ปกติฝนจะชอบเล่นอยู่ไม่กี่ห้องหรอกค่ะ ส่วนใหญ่จะซุ่มอยู่ตามโต๊ะเครื่องแป้ง ดูสาว ๆ แต่งหน้ากันสวย ๆ ดูพวกเครื่องสำอางค์ มาส์กหน้า อีกห้องก็คงจะเป็นก้นครัว เพราะว่า ฝนชอบตามไปกินพวกรีวิวน่าอร่อย ๆ อะไรแบบนี้ ไม่ค่อยได้โพสต์หรอกค่ะ
นี่คือรูปฝนตอนเด็ก ๆ กับครอบครัวค่ะ เด็กน้อยจากสุรินทร์ (ขอเสียงชาวสุรินทร์หน่อยค่ะ ^ ^) สมัยเด็ก ๆ ฝนว่าหลายคนก็เป็นคือ ติดวิ่งเล่น ไม่ห่วงเรื่องความสวย ฝนก็ด้วย คือเกิดมาก็คิดว่าตัวเองไม่สวยอยู่แล้ว ไม่รู้จะดูแลตัวเองไปทำไม ตอนเด็ก ๆ เคยมีเพื่อนคนหนึ่งเลิกเล่นกับฝนเพราะบอกว่าฝน “ขี้เหร่” “หน้าตาน่ากลัว” บอกเลยว่าตอนนั้นรู้สึกเฉย ๆมากค่ะ จะบอกว่าชินก็ได้
สมัยเป็นสาวรุ่นๆตอนอยู่ตจว.เนอะ
โตมาก็มีดูแลตัวเองบ้าง เห็นเพื่อน ๆ ทำสวยกันฝนก็เริ่มดูแลตัวเองบ้าง แต่ก็ไม่พ้นการโดนล้อมาตลอดสารพัดคำที่จะคิดกันอย่าง “หน้าเหลี่ยม” “หน้าบาน” “จานดาวเทียม” ฝนก็รู้ตัวเองแหละว่าหน้าตาไม่ได้ดูดี แต่ไอ้ที่มาล้อๆกัน เริ่มเยอะๆเข้าบางทีมันก็บั่นทอนจิตใจจริง ๆ บางครั้งก็อยากตอบกลับไปแรง ๆ แต่ยิ่งตอบกลับ บางคนก็เหมือนยิ่งสนุก ยิ่งเป็นปมในใจ พอกลับมาบ้านก็มีแอบร้องไห้นะบางที
ตอนเข้าเรียนที่ อัฒกรบริรักษ์ ฝนเรียนหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลค่ะ ช่วงที่เรียนใกล้จบ จะมีให้เราเลือกสถานที่เพื่อฝึกงาน มีคนแนะนำให้ฝนเข้ามาฝึกงานที่คลินิกศัลยกรรมในกรุงเทพฯ ตอนแรกฝนว่าจะไม่ไปนะ เพราะมันไกลบ้านต้องย้ายที่อยู่จากอีสานเข้ากรุงเทพฯ
แต่เพราะอยากได้ประสบการณ์การทำงาน เลยไปขอพ่อกับแม่ คำแรกที่ได้ยินคือ “ไม่” จนสุดท้ายเพราะความตั้งใจ และอยากหาประสบการณ์การทำงาน พ่อแม่ก็ใจอ่อน และได้มาฝึกงานที่ มาสเตอร์พีซ คลินิกค่ะ สำหรับที่นี่จะเปลี่ยนชีวิตฝนไปตลอดกาล... (เวอร์วังอลังการเนอะ แต่เรื่องจริง)
ก่อนทำศัลยกรรมและก่อนเข้ามากทม.ค่ะ บ้านมากกก
ฝนมาฝึกงานที่นี่กับเพื่อนอีก 5 คน ตอนแรกคิดว่าเข้ามาแล้วจะได้ฝึกเป็นผู้ช่วยพยาบาลเลย แต่จับผลัดจับผลูได้มาอยู่ตรงที่แผนกคีย์ข้อมูลคนไข้ค่ะ ส่วนเพื่อนอีกกลุ่มได้ไปฝึกที่หน้าคลินิก ด้วยความที่ ที่ทำงานอยู่ใกล้พวกสยาม เวลาพี่ ๆ ที่ทำงานพาไปเลี้ยงข้าวแต่ละที ก็ไม่พ้น สยามแสควร์ ก็จะเจอแต่คนหน้าตาดี ๆ น่ารัก ๆ กันทั้งนั้น
จนฝึกงานจบ พี่ที่คลินิกก็ถามค่ะว่าฝนสนใจทำงานต่อมั้ย? ฝนตัดสินใจบอกพ่อกับแม่ว่า ฝนขออยู่ทำงานเก็บเงินที่นี่ต่อก่อนละกัน หลังจากนั้นฝนเลยได้เป็นพนักงานที่นี่เต็มตัว ได้มาทำงานในตำแหน่งกรอกประวัติคนไข้ ตอนแรกก็ใช้ชีวิตตามปกติ ได้สนิทกับพี่ๆที่ทำงานเพราะเราเป็นน้องเล็กสุด ก็มีโดนแซวแบบฮา ๆ บ้าง มีเล่าให้พี่ ๆ ที่ฝนสนิทฟังว่าฝนโดนล้อ พี่ ๆ บางคนก็ปลอบใจว่า เค้าเอ็นดูเราเค้าถึงแซว อย่าคิดมาก
ตอนนั้นคือมั่นใจว่าก็สวยในระดับหนึ่ง555
จนมีวันนึง พี่ที่ทำงานคนนึงปกติจะล้อฝนเป็นประจำอยู่แล้ว ฝนไม่ได้ไปต่อล้อต่อเถียงอะไร พี่เค้าก็พูด ๆ ไม่หยุดแต่ละคำที่ฝนฟังแล้วก็เสียใจจริง ๆ “หน้าบาน” “หน้าเหลี่ยม” “นี่หน้าหรือลูกเต๋า” ก็รู้แหละว่าพวกพี่เค้าหยอกเล่น แต่เราก็อดคิดไม่ได้ว่ามันเป็นปมด้อยของเรา บางคนพอฟังแล้วก็หัวเราะตามไป แต่เราคือคนที่โดนล้อ ไม่สนุก ไม่ตลกเลย เสียใจ สุดท้ายวันนั้นความรู้สึกมันเหมือนระเบิด ฝนปล่อยโฮแล้วร้องไห้มาตรงนั้นเลย เหมือนโดนขยี้ปมในใจเยอะ ๆ “รู้แล้วว่าไม่สวย รู้แล้วว่าหน้าเหลี่ยม แล้วจะให้ทำยังไง ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้” คือทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ รู้ว่าตลก สนุก แต่ฝนก็ไม่ใช่ตัวตลกของใครนะ
ฝนตอนเริ่มฝึกงานแรกๆเลยค่ะ
ตอนหลังแผนกตรงที่ฝนอยู่ ได้ย้ายไปออฟฟิศที่คลินิกตรงสยาม คราวนี้ยิ่งหนักใหญ่ คนสวย ๆ เพียบ!!! คือดูดีกันเต็มไปหมด ทั้งพี่เซล ทั้งลูกค้าที่มาทำ ฝนยิ่งรู้สึกตัวเองด้อย จนกว่าจะรู้ตัวอีกที คนก็ทักว่าทำไมฝนเป็นคนที่ดูเศร้า ดูไม่ร่าเริง ไม่ยิ้มเลย เป็นอะไรรึเปล่า ฝนเองก็ไม่รู้สึกตัวนะ ถ้าไม่มีคนมาทัก
ใช้รูปนี้ส่งเข้าขอเป็นเคสทำศัลยกรรมค่ะ
แต่ในที่สุด...ที่คลินิกมีเปิดรับพนักงานทำศัลยกรรม Make Over !!! แต่มีการติดสัญญานะต่อการทำ 1 อย่างอะไรแบบนี้ เท่ากับแลกในส่วนที่ไม่ได้จ่าย ตอนแรกที่เห็นฝนบอกเลยว่า เฉย ๆ เพราะไม่คิดว่าเราจะได้ทำ หรือ เราจะแก้ตรงไหนได้ แต่ฝนก็ลองยื่นสมัครดู ได้เข้าไปปรึกษาคุณหมอ ตอนปรึกษาฝนบอกคุณหมอว่า หนูไม่อยากหน้าเหลี่ยมอีกแล้ว วันนั้นตอนที่ฝนปรึกษาคุณหมอ ก็เล่าให้คุณหมอฟังชุดใหญ่เลยว่า เรามีปัญหาตรงไหนบ้าง เพราะฝนรู้สึกว่าเป็นคนที่กรามใหญ่ โหนกแก้มสูง แถมดั้งยังแหมบอีก รวมแล้วทุกอย่างคือไม่ชอบหน้าตัวเองเลย ไม่รู้น้ำตามาจากไหน มันไหลออกมาตลอดเวลาที่คุยกับคุณหมอ มันเหมือนเป็นปมในใจจริง ๆ
ก่อนทำศัลยกรรมที่คลินิกต้องมีการเก็บภาพไว้ด้วย ฝนขอรูปมาใช้เขียนริวิวค่ะ
ลืมบอกไปก่อนปรึกษาทางคลินิกจะมีเก็บภาพก่อนและหลังของเราด้วย มีการเซ็นสัญญา และมีการถ่ายรูปทุกขั้นตอนการทำเลย ปรึกษากับคุณหมอนานมาก ถ้าให้เล่าให้หมด วันนี้กระทู้คงไม่จบ ฝนเลยย่อยมาเป็นข้อ ๆ ดีกว่า
..จากเด็กหน้าเหลี่ยมกรามใหญ่ดั้งแหมบ...ตัวดำ ๆ ไปไหนก็มีแต่คนล้อ..
สวัสดีค่ะทุกคนนน หนูขอแนะนำตัวก่อนเลยน้า หนูชื่อฝนนะคะ แต่ชอบเรียกตัวเองว่าอาฝน เพราะอยากดูเก๋ ๆ ขึ้นมาบ้าง 555 นี่เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรกในพันทิปที่ตั้งใจมากๆเพราะอยากให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของฝนแบบเต็มๆ เขียนผิดอะไรตรงไหนติชมกันได้เลยนะคะ
ปกติฝนจะชอบเล่นอยู่ไม่กี่ห้องหรอกค่ะ ส่วนใหญ่จะซุ่มอยู่ตามโต๊ะเครื่องแป้ง ดูสาว ๆ แต่งหน้ากันสวย ๆ ดูพวกเครื่องสำอางค์ มาส์กหน้า อีกห้องก็คงจะเป็นก้นครัว เพราะว่า ฝนชอบตามไปกินพวกรีวิวน่าอร่อย ๆ อะไรแบบนี้ ไม่ค่อยได้โพสต์หรอกค่ะ
นี่คือรูปฝนตอนเด็ก ๆ กับครอบครัวค่ะ เด็กน้อยจากสุรินทร์ (ขอเสียงชาวสุรินทร์หน่อยค่ะ ^ ^) สมัยเด็ก ๆ ฝนว่าหลายคนก็เป็นคือ ติดวิ่งเล่น ไม่ห่วงเรื่องความสวย ฝนก็ด้วย คือเกิดมาก็คิดว่าตัวเองไม่สวยอยู่แล้ว ไม่รู้จะดูแลตัวเองไปทำไม ตอนเด็ก ๆ เคยมีเพื่อนคนหนึ่งเลิกเล่นกับฝนเพราะบอกว่าฝน “ขี้เหร่” “หน้าตาน่ากลัว” บอกเลยว่าตอนนั้นรู้สึกเฉย ๆมากค่ะ จะบอกว่าชินก็ได้
สมัยเป็นสาวรุ่นๆตอนอยู่ตจว.เนอะ
โตมาก็มีดูแลตัวเองบ้าง เห็นเพื่อน ๆ ทำสวยกันฝนก็เริ่มดูแลตัวเองบ้าง แต่ก็ไม่พ้นการโดนล้อมาตลอดสารพัดคำที่จะคิดกันอย่าง “หน้าเหลี่ยม” “หน้าบาน” “จานดาวเทียม” ฝนก็รู้ตัวเองแหละว่าหน้าตาไม่ได้ดูดี แต่ไอ้ที่มาล้อๆกัน เริ่มเยอะๆเข้าบางทีมันก็บั่นทอนจิตใจจริง ๆ บางครั้งก็อยากตอบกลับไปแรง ๆ แต่ยิ่งตอบกลับ บางคนก็เหมือนยิ่งสนุก ยิ่งเป็นปมในใจ พอกลับมาบ้านก็มีแอบร้องไห้นะบางที
ตอนเข้าเรียนที่ อัฒกรบริรักษ์ ฝนเรียนหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลค่ะ ช่วงที่เรียนใกล้จบ จะมีให้เราเลือกสถานที่เพื่อฝึกงาน มีคนแนะนำให้ฝนเข้ามาฝึกงานที่คลินิกศัลยกรรมในกรุงเทพฯ ตอนแรกฝนว่าจะไม่ไปนะ เพราะมันไกลบ้านต้องย้ายที่อยู่จากอีสานเข้ากรุงเทพฯ
แต่เพราะอยากได้ประสบการณ์การทำงาน เลยไปขอพ่อกับแม่ คำแรกที่ได้ยินคือ “ไม่” จนสุดท้ายเพราะความตั้งใจ และอยากหาประสบการณ์การทำงาน พ่อแม่ก็ใจอ่อน และได้มาฝึกงานที่ มาสเตอร์พีซ คลินิกค่ะ สำหรับที่นี่จะเปลี่ยนชีวิตฝนไปตลอดกาล... (เวอร์วังอลังการเนอะ แต่เรื่องจริง)
ก่อนทำศัลยกรรมและก่อนเข้ามากทม.ค่ะ บ้านมากกก
ฝนมาฝึกงานที่นี่กับเพื่อนอีก 5 คน ตอนแรกคิดว่าเข้ามาแล้วจะได้ฝึกเป็นผู้ช่วยพยาบาลเลย แต่จับผลัดจับผลูได้มาอยู่ตรงที่แผนกคีย์ข้อมูลคนไข้ค่ะ ส่วนเพื่อนอีกกลุ่มได้ไปฝึกที่หน้าคลินิก ด้วยความที่ ที่ทำงานอยู่ใกล้พวกสยาม เวลาพี่ ๆ ที่ทำงานพาไปเลี้ยงข้าวแต่ละที ก็ไม่พ้น สยามแสควร์ ก็จะเจอแต่คนหน้าตาดี ๆ น่ารัก ๆ กันทั้งนั้น
จนฝึกงานจบ พี่ที่คลินิกก็ถามค่ะว่าฝนสนใจทำงานต่อมั้ย? ฝนตัดสินใจบอกพ่อกับแม่ว่า ฝนขออยู่ทำงานเก็บเงินที่นี่ต่อก่อนละกัน หลังจากนั้นฝนเลยได้เป็นพนักงานที่นี่เต็มตัว ได้มาทำงานในตำแหน่งกรอกประวัติคนไข้ ตอนแรกก็ใช้ชีวิตตามปกติ ได้สนิทกับพี่ๆที่ทำงานเพราะเราเป็นน้องเล็กสุด ก็มีโดนแซวแบบฮา ๆ บ้าง มีเล่าให้พี่ ๆ ที่ฝนสนิทฟังว่าฝนโดนล้อ พี่ ๆ บางคนก็ปลอบใจว่า เค้าเอ็นดูเราเค้าถึงแซว อย่าคิดมาก
ตอนนั้นคือมั่นใจว่าก็สวยในระดับหนึ่ง555
จนมีวันนึง พี่ที่ทำงานคนนึงปกติจะล้อฝนเป็นประจำอยู่แล้ว ฝนไม่ได้ไปต่อล้อต่อเถียงอะไร พี่เค้าก็พูด ๆ ไม่หยุดแต่ละคำที่ฝนฟังแล้วก็เสียใจจริง ๆ “หน้าบาน” “หน้าเหลี่ยม” “นี่หน้าหรือลูกเต๋า” ก็รู้แหละว่าพวกพี่เค้าหยอกเล่น แต่เราก็อดคิดไม่ได้ว่ามันเป็นปมด้อยของเรา บางคนพอฟังแล้วก็หัวเราะตามไป แต่เราคือคนที่โดนล้อ ไม่สนุก ไม่ตลกเลย เสียใจ สุดท้ายวันนั้นความรู้สึกมันเหมือนระเบิด ฝนปล่อยโฮแล้วร้องไห้มาตรงนั้นเลย เหมือนโดนขยี้ปมในใจเยอะ ๆ “รู้แล้วว่าไม่สวย รู้แล้วว่าหน้าเหลี่ยม แล้วจะให้ทำยังไง ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้” คือทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ รู้ว่าตลก สนุก แต่ฝนก็ไม่ใช่ตัวตลกของใครนะ
ฝนตอนเริ่มฝึกงานแรกๆเลยค่ะ
..หยุดเถอะ ใครที่ชอบมีความสุขกับการเอาปมด้อยของคนอื่นมาล้อ..
..เพราะคนที่โดนเค้าไม่ใช่ตัวตลกของใคร!!..
..เพราะคนที่โดนเค้าไม่ใช่ตัวตลกของใคร!!..
ตอนหลังแผนกตรงที่ฝนอยู่ ได้ย้ายไปออฟฟิศที่คลินิกตรงสยาม คราวนี้ยิ่งหนักใหญ่ คนสวย ๆ เพียบ!!! คือดูดีกันเต็มไปหมด ทั้งพี่เซล ทั้งลูกค้าที่มาทำ ฝนยิ่งรู้สึกตัวเองด้อย จนกว่าจะรู้ตัวอีกที คนก็ทักว่าทำไมฝนเป็นคนที่ดูเศร้า ดูไม่ร่าเริง ไม่ยิ้มเลย เป็นอะไรรึเปล่า ฝนเองก็ไม่รู้สึกตัวนะ ถ้าไม่มีคนมาทัก
ใช้รูปนี้ส่งเข้าขอเป็นเคสทำศัลยกรรมค่ะ
แต่ในที่สุด...ที่คลินิกมีเปิดรับพนักงานทำศัลยกรรม Make Over !!! แต่มีการติดสัญญานะต่อการทำ 1 อย่างอะไรแบบนี้ เท่ากับแลกในส่วนที่ไม่ได้จ่าย ตอนแรกที่เห็นฝนบอกเลยว่า เฉย ๆ เพราะไม่คิดว่าเราจะได้ทำ หรือ เราจะแก้ตรงไหนได้ แต่ฝนก็ลองยื่นสมัครดู ได้เข้าไปปรึกษาคุณหมอ ตอนปรึกษาฝนบอกคุณหมอว่า หนูไม่อยากหน้าเหลี่ยมอีกแล้ว วันนั้นตอนที่ฝนปรึกษาคุณหมอ ก็เล่าให้คุณหมอฟังชุดใหญ่เลยว่า เรามีปัญหาตรงไหนบ้าง เพราะฝนรู้สึกว่าเป็นคนที่กรามใหญ่ โหนกแก้มสูง แถมดั้งยังแหมบอีก รวมแล้วทุกอย่างคือไม่ชอบหน้าตัวเองเลย ไม่รู้น้ำตามาจากไหน มันไหลออกมาตลอดเวลาที่คุยกับคุณหมอ มันเหมือนเป็นปมในใจจริง ๆ
ก่อนทำศัลยกรรมที่คลินิกต้องมีการเก็บภาพไว้ด้วย ฝนขอรูปมาใช้เขียนริวิวค่ะ
ลืมบอกไปก่อนปรึกษาทางคลินิกจะมีเก็บภาพก่อนและหลังของเราด้วย มีการเซ็นสัญญา และมีการถ่ายรูปทุกขั้นตอนการทำเลย ปรึกษากับคุณหมอนานมาก ถ้าให้เล่าให้หมด วันนี้กระทู้คงไม่จบ ฝนเลยย่อยมาเป็นข้อ ๆ ดีกว่า
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก
- หน้าเด็กกว่าเดิมด้วยการยกคิ้วนะคะ