ดูดไขมันด้วย Body-jet

so good

สมาชิกโดดเด่น
สมัครเมื่อ
6 สิงหาคม 2015
โพสต์
6
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอมารีวิวประสบการณ์การดูดไขมันด้วยเครื่องที่ชื่อว่า Body Jet ครับ ประสบการณ์จริงล้วนๆ ผิดพลาดประการใดขออภัยนะครับ ท้าวความก่อนนะครับ ผมเป็นคนอ้วนมากๆ คือ พุงใหญ่
ขาใหญ่จริงๆคือใหญ่ทุกส่วน น้ำหนักผมก็ขึ้นหลักร้อยแระครับ คือสมัยเด็กๆโดนเพื่อนล้อประจำ
ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติของคนอ้วนอยู่ละครับ ผมเองก็พยายามหาวิธีลดน้ำหนักเพื่อที่จะเอาไอ้พุงที่หนายังกะห่วงยางออกไปจากตัวแต่ก็ก็ย๊ากกกกเหลือเกิน อะไรที่เค้าว่าดีทำมาหมดแล้ว เริ่มจาก กินยาลดน้ำหนักครับ ที่ตัดสินใจกิน เพราะผมทำงานด้านทีวีครับเจอคนเยอะมาก เคยมีครั้งหนึ่งเดินขึ้นบันไดเพื่อนอยู่ชั้น3 ผมกำลังจะขึ้นไปหาเพื่อนแต่ยังไม่ทันถึงมันตะโกนดังลั่น “แผ่นดินไหวๆ” ผมก็หลงนึกว่าแผ่นดินไหวจริงๆ ที่ไหนได้ พวกมันเห็นผมก็เลยล้อเลยแซว เล่นเอาทำคนที่ได้ยินเค้าหันมามองกันหมด ตอนแรกเพื่อนๆแซวไม่รู้สึกจี๊ดในใจเท่าไหร่ หลังๆบ่อยมากแล้วมันไม่เลือกที่เลือกเวลาในการแซว กลางพารากอนบ้าง ที่เซ็นทรัลลาดพร้าวบ้าง เลยคิดว่าไม่ไหวแระเอาอะไรที่ลดเร็วๆที่สุดดี นั่นแหละครับคำตอบของคนเกลียดการออกกำลังกายอย่างผม คือการทานยาลดน้ำหนักที่เค้ารีวิวกันนั่นแหละครับ ซึ่งก็มีเยอะแยะมากมาย ผมก็เลือกเอาอันที่อ่านละคิดว่าน่าจะชัวร์แน่ๆคนกดไลค์กดแชร์ก็เยอะ ไม่น่าจะเป็นอะไร“ทานเล้ย 7 วันเห็นผล” เห็นจริงครับตอนนั้นน้ำหนักผมจากเดิม 96 โล ลงมาเหลือ 93 โล ในเวลาไม่ถึงเดือน แต่หลังจากนั้นไอที่เค้าบอกว่าทานยาลดน้ำหนักแล้วจะเบลอ สติสตังที่มีอยู่น้อยแล้วจะยิ่งน้อยกว่าเดิม ใครทำอะไรก็ขัดหูขัดตาไปหมด แบบอาการมันชัดมากๆเลยครับ บางทีก็รู้สึกวืบๆ เบลอๆ ใจสั่น เหมือนจะเป็นลมให้ได้ ผมเลยตัดสินใจ “หยุด” เพรากลัวตัวเองจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้ และผลที่ตามมาหลังหยุดไปเกือบๆ 2 เดือน
บอกเลยว่าอยากอาหารมากกว่าเดิมมากๆ และกลับมากินเยอะขึ้น ขับถ่ายยากขึ้น ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวจะระเบิด ปั้ง!!!! น้ำหนักพุ่งขึ้นมาเป็น 98 ครับ แต่ผมก็ยังไม่ละความพยายาม เปลี่ยนการใช้ชีวิต แต่ด้วยงานที่ต้องรีบอยู่ตลอดบวกกับผมกลับดึกทุกคืน เรื่องการออกกำลังกายผมเลยสามารถทำได้ไม่มากนัก ผมเลือกที่จะออกกำลังกายเฉพาะเสาร์และอาทิตย์ ควบคุมอาหาร จากแต่ก่อนผมไม่ทานข้าวเช้าก็เปลี่ยนมาทานบางครั้งรีบ ตื่นสาย ก็ทานไขต้ม 2 ฟองแทน มื้อกลางวันจากปกติสั่งข้าวอาหารตามสั่งร้านหน้าออฟฟิศผมก็จะขอข้าวเพิ่มตลอด จนแม่ค้ารู้และจำได้ หลังๆผมก็ไม่ขอข้าวเพิ่ม(แต่ไม่ได้ขอให้เค้าลดลงนะครับปริมาณเหมือนคนอื่นสั่ง) เพราะเคยให้แม่ค้าตักข้าวให้แค่ทัพพีเดียว วูบครับมันปรับเร็วไปร่างกายผมคงตามไม่ทัน ตอนนี้ทำมาได้ 3 เดือนกว่าแล้วครับ น้ำหนักผมลดลงไม่มากประมาณ95-96 ครับแต่รู้สึกตัวเบาลง แต่ผมก็ยังไม่หยุดหาวิธีลดน้ำหนักนะครับ วันนึงก็หาข้อมูลเรื่องการลดน้ำหนักอยู่เป็นปกติ (เข้าเกือบทุกเวบครับเข้าเกือบทุกวันด้วยอะไรว่าผอมเข้าหมด) ผมไปเจอบทความจากคุณหมอต่างประเทศท่านนึงแล้วมีรีวิวการดูดไขมัน วิถีคนอ้วนก็ไม่รอช้าครับกดคลิกอย่างไว จนทราบมาว่าไอ้ตัวที่ผมคลิกเข้ามาดูเนี่ยมันชื่อว่า เครื่อง Body-Jet ครับ ผมแปลภาษาอังกฤษออกบ้างไม่ออกบ้างนะครับเพราะบางคำมันเป็นศัพท์ทางการแพทย์ แต่จับใจความคร่าวๆว่า มันใช้พลังงานของน้ำเข้าสลายไขมัน แต่จุดที่รู้สึกว่าผมอยากลองคือ เค้าบอกว่าไอ้เครื่อง Body jet เนี่ยมันปลอดภัยเห็นผลทันทีและไม่ต้องดมยาสลบ ไม่เจ็บ เวลาทำก็รู้สึกตัวตลอด เพราะผมเป็นคนที่กลัวการเจ็บปวดมาก (เอาเป็นว่าสำออยขั้นแอดว้านซ์) แล้วเค้าบอกมันต่างกับการดูดไขมันแบบเดิมๆคือเลือดออกน้อย ไม่ระบม แล้วก็พักฟื้นแค่สั้นๆ อีกวันก็ทำงานได้ปกติ
body-jet-surgical-liposuction-for-women.jpg
อันนี้คือรีวิวต่างประเทศนะครับ เค้าบอกว่าไขมันที่ดูดออกไปนั้นสามารถเอาไปเติมตรงส่วนที่เราต้องการได้ด้วย ยิ่งผู้หญิงนี่เรียกว่าคุ้มเลยหละครับ เพราะเค้านิยมดูดไขมันตามหน้าท้อง ต้นขาแล้วเอาไปเติมหน้าอก คือไม่มีผลข้างเคียงเพราะเป็นไขมันตัวเอง แถมยังเอาไปทำเป็นสเต็มเซลล์ฟิลเลอร์เติมริ้วรอยที่หน้าก็ได้ หลังจากนั้นก็ต้องให้อะกู๋ (google) ช่วยหาว่าในประเทศไทยมีไหมจนผมได้ข้อมูลว่าเมืองไทยมีนำเข้ามาแล้ว ผู้นำเข้าชื่อ Technicalbiomed ก็เข้าไปดูในเวปเขาเแหละครับยิ่งอ่านยิ่งอยากทำ เหมือนต้องมนต์ ผมเลยตัดสินใจโทรไปที่บ.นี้ แล้วมีผู้หญิงรับ คำถามแรกของผม ผมสามารถดูดไขมันกับเครื่อง Body Jet กับทางบริษัทได้ไหมสนใจอยากทำอยากจองคิว? พนักงานเค้าก็ตอบมาว่าเราเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายค่ะ ไม่ใช่คลินิกแต่สามารถแนะนำและให้ข้อมูลได้ ว่าที่ไหนที่มีเครื่อง Bodyjet บ้างพนักงานหญิงเค้าก็เล่าๆเรื่องไอ้เครื่องนี้ให้ผมฟังหลังจากที่ผมอ่านมาแล้วหลายรอบ (คิดในใจตูรู้ตูอ่านจนตาแฉะ)
หลังฟังน้องเค้าจนจบผมก็ถามน้องเค้าว่าหมอไหนเก่ง คลินิกไหน น้องเค้าก็แนะนำว่าทุกที่ที่มีเครื่อง Bodyjet คุณหมอทุกท่านเก่งทุกคน เค้าก็แนะนำมาหลายที่เลย เพราะมีคลินิกหลายที่ที่ใช้การดูดไขมันด้วยเครื่องนี้ จากนั้นผมก็ตัดสินใจเลือกคุณหมอชื่อ ดิตถพงษ์ บุญอำพล ที่คลินิกชื่อ Wisdom shape เพราะว่าคลินิกอยู่แถวนานา ใกล้ที่ทำงานเดินทางสะดวก ส่วนเรื่องค่ารักษา ก็แพงไม่ใช่เล่น แต่ตอนนั้นอย่างที่บอกเหมือนต้องมนต์สะกด ผมนัดคิว กับหมอดิตถพงษ์ทันที
13384_886497848056189_8137951335533972490_n.jpg
ผมได้คิววันที่ 8 กรกฏาคม หลังจากนั้น 2 วัน ทางคลินิกโทรหาผมเค้าบอกว่า เค้าจะให้ส่วนลดในราคาพิเศษ แต่ในวันที่ผมเข้ามาทำการดูดไขมันเขาขออนุญาติถ่ายทำระหว่างดูดสะดวกไหมอยากให้เป็นตัวอย่างเคส ผมโอเครอยู่แล้วละครับ 555 แต่ผมก็บอกเค้านะเงื่อนไขคือผมต้องโอเคกับผลลัพธ์ ที่ออกมานะ แต่ถ้าผลลัพธ์ไม่ได้อย่างที่ผมต้องการ ห้ามเผยแพร่เด็ดขาด !!!!! (เกริ่นยาวมากต้องขออภัยนะครับ)
วันที่ต้องขึ้นเขียงดูดไขมัน ผมมากับเพื่อนสาว 2 คน(อีนังชะนีที่ว่าผมเดินเหมือนแผ่นดินไหวแหละครับ)
พอเข้าไปในคลินิก โอ้วว!!! ยังกะโรงแรมตกแต่งได้อลังปังเวอร์ความรู้สึกเออ…เวอร์ไป๊ แต่ก็ดีลดความน่ากลัวลงนิด ผมกะเพื่อนชะนีก็เม้าท์กันดัง เดินเข้ามาว้ายยย…. เจอคุณหมอพอดี คุณหมอดูใจดีนะครับหมอกล่าวทักผมและถามผมกะเพื่อนว่าคลินิคสวยไหมคุณหมอออกแบบเองอยากให้เหมือนอยู่บนอวกาศ
(ผมนึกในใจมันก็เหมือนจริงๆ เพดานมีดาว) และเสียงคุณหมอถามพนักงานต้อนรับ เคสวันนี้ใช่ไหม? ผมยกมือไหว้และไม่ได้คุยไรต่อ จากนั้นนางพยาบาลก็พาผมไปวัดความดัน ตรวจเลือด (ต้องขอโทษทีนะครับภาพตอนนี้ไม่ได้ถ่ายมัวจับแขนเพื่อนสาวอยู่เพราะกลัวเข็ม) หลังจากตรวจวัดความดัน เจาะเลือดแล้ว พยาบาลพาผมเข้าไปในห้องคุณหมอ คุณหมอก็สั่งให้ถอดเสื้อแล้วกดๆตรงบริเวณท้องผม แล้วเอาปากกา (คล้ายเมจิก) มาวาดๆเป็นเส้นๆ ทั่วท้องครับตามภาพ
IMG_7632.jpg
เริ่มดูด เอาหล่ะครับมาถึงขั้นตอนการดูด ผมต้องแก้ผ้าล่อนจ้อนเหลือกางเกงในเพียงตัวเดียวอยู่ในห้องนั้นกับคุณหมอและผู้ช่วย พยาบาลอีก4คน อันดับแรกผู้ช่วยคุณหมอมาเช็ดสีเมจิกที่วาดตัวผมด้วยแอลกอฮอลล์ ผมเดาว่าเป็นการฆ่าเชื้อด้วยเพราะเช็ดหลายรอบครับ
IMG_7634.jpg
แล้วให้ผมนอนลงเอาฉากมากั้นไม่ให้ผมเห็นอะไร แล้วคุณหมอก็ฉีดยาชาให้ผมครับเข็มเล็กๆ (อันนี้ผมจะอธิบายตามในคลิปที่เค้าถ่ายไว้นะครับ)
IMG_7448.jpg
คุณหมอใช้เข็มยาวๆคล้ายเข็มร้อยพวงมาลัยแต่ใหญ่กว่าและมีสายยางเชื่อมต่อเครื่อง Body Jet คุณหมอใช้เข็มนั้นทิ่มลงไปที่เอวผม แล้วคุณหมอก็บอกว่า เรากำลังพ่นละอองน้ำเข้าไปนะครับ เจ็บไหมครับ? เอาจริงๆ เราเองรู้สึกเหมือนมดกันนิดๆ แล้วก็หวิวๆ เหมือนมีอะไรมาวิ่งเล่นในท้อง หมอบอกว่าเป็นธรรมดาเพราะกำลังเอาน้ำกับน้ำเกลือเข้าไปในระหว่างการทำ หมอก็น่ารักมาก สรรหาเรื่องมาชวนคุยกับเราตลอด
ทำงานที่ไหน สนุกไหม บ้านอยู่ที่ไหนรถติดเปล่า ลามไปจนถึงถามข่าวโตโน่ แตงโม เอ้อออ…. คุณหมอตามติดกระแสนะจะว่าไป เราก็เล่าๆ พยาบาลก็ตลกเรากันใหญ่ (นึกในใจชั้นเป็นหม่ำหรอ) หลังจากเอาพ่นน้ำเข้าไปได้ประมาณ 30 นาที ผมกะเอานะครับเพราะตอนนั้นคุยเพลิน แล้วพยาบาลก็บอกขั้นตอนต่อไปว่าจะดูดไขมันออกมาแล้วนะ ผู้ช่วยพยาบาลบอกผมว่า ไขมันวิ่งในสายยางเยอะมากเลยค่ะ (พี่เค้าถ่ายภาพให้) ความรู้สึกตอนนั้นไม่เจ็บเลยนะครับ แต่รู้สึกว่าตัวเองเกร็งไปเอง มันเหมือนหวิวๆบ้าง รู้สึกมีอะไรวนๆในท้องแค่นั้นเอง
IMG_7480.jpg
เอาเป็นว่าผมนอนเล่นเกมส์ได้สบายๆ ผ่านไปเกือบชั่วโมง หมอบอกไขมันเยอะใช้เวลานาน 5555 ผ่านไป1ข้างไขมันของผม1ถุงเต็มๆ แอบขนลุก หมอก็ย้ายข้างมาทำเอวอีกข้างครับ ผมรู้สึกว่ามันแปปเดียวเพราะผมนอนเล่นเกมส์ จนเสร็จครับ2ข้าง
IMG_7658.jpg
คุณหมอเอาเข็มออกแล้วเย็บไหมผม อันนี้ยังรู้สึกเหมือนมดกัดมากกว่าตอนดูดไขมันอีกนะครับ ก็เย็บไหมสีดำๆ หมอบอกว่าไม่ต้องกังวลแผลเล็กมากๆ แทบมองไม่เห็นเลย แผลมี2จุดนะครับ
IMG_7529.jpg
หลังจากเย็บเสร็จนางพยาบาลก็ทำความสะอาดแผลและตัวผมด้วยแอลกฮอลล์ครับ เตียง หมอน ทุกอย่างในห้อง พนักงาน 3 คนเช็ดเรียบ แล้วเค้าเอาไขมันของผมมาให้ดู ถึงกับตกใจร้องกรี๊ด 2 ถุงเต็มๆ(พยาบาลบอกจริงๆมี 3 แต่ทิ้งไปแล้ว 1 ถุง) ในถุงมันแบ่งสีกันสีชมพูกับสีเหลือง(เพื่อนชะนีผมเข้ามารับเห็นถุงไขมัน
บอกว่าเหมือนน้ำข้าวโพดกะแครอท) ผมตกใจสีข้างล่างรีบตะโกนถามหมอเลยครับว่า หมอครับไหนบอกเครื่องนี้มีเลือดออกมาน้อยมากไงนี่มันอะไรทำไมเยอะขนาดนี้? (ออกแนวโวยวายเพราะตกใจว่าทำไมเลือดตัวเองเยอะขนาดนี้) หมอหัวเราะผมเบาๆแล้วบอกว่าเลือดผสมกับน้ำเกลือและไขมัน มันก็เหมือนเราเอาสีแดงแค่หยดเดียวผสมกับน้ำเปล่า 1 ขันสีก็ออกมาแบบนี้เหมือนกัน แต่ออกมาน้อยมากครับถ้าเทียบกับดูดแบบอื่นคุณลองไปหาดูรีวิวดูดไขมันแบบอื่นดูสิ หลังจากได้ฟังแบบนี้ก็ค่อยโล่งใจ สรุปไขมันผมที่ออกมา
2100CC ครับ ถือว่าเยอะมาก หมอบอกว่าเนี่ยขาหมู ข้าวมันไก่ทั้งหลายที่กินไป
IMG_7528.jpg
หลังจากนั้นพยาบาลก็พยุงผมลุกจากเตียงตอนแรกคิดว่าจะเจ็บป๊าปๆไม่เลยครับผมนั่งผมเดินได้ธรรมดาไม่เจ็บเลยมีแค่มันรู้สึกท้องหนักนิดๆ (พยาบาลบอกว่าในท้องยังมีน้ำเกลือหลงเหลืออยู่แต่มันจะค่อยๆซึมออกมาเองใช้เวลา2-3วัน )ที่ผมชอบคือไม่มันไม่เจ็บไม่ต้องพักฟื้นครับ และจ่ายตังค์รับยา แถมคลินิกยังมีชุดกระชับสัดส่วนให้ด้วยต้องใส่เป็นเวลา 2เดือนครับ พยาบาลบอกว่าวันต่อมาอาจรู้สึกระบมบ้างนิดหน่อยแต่ไม่มาก และถ้าอยากให้มีกล้ามหน้าท้องต้องออกกำลังกายและควบคุมอาหารต่อไปด้วย เพราะผู้ชายบางคนที่ไม่อ้วนแบบผม เค้าสามารถดูดไขมันเพื่อทำให้เห็นเป็นแพ็คๆ เห็นกล้ามหน้าท้องได้เลยด้วยซ้ำไป
อันนี้เป็นภาพหลังจากทำเสร็จเรียบร้อยนะครับผมทำให้เห็นชัดๆแบบก่อนและหลังเลยว่าเป็นอย่างไร หลังทำเสร็จผมลองชั่งน้ำหนัก น้ำหนักผมไม่ลดลงเท่าเดิม แต่พยาบาลบอกผมว่าอีก 2 วันจะลดลงประมาณ4โล ภาพนี้ก่อนกลับพยาบาล เอาพร๊อบมาให้ด้วย และทางคลินิกขอภาพผมบางส่วนไปใช้ผมตอบตกลงไปเพราะผมค่อนข้างพอใจกับการบริการของทางคลินิคและคุณหมอครับ ^^ ลองบริการไม่ดีสิ…….
ok1.jpg
สรุปเลยนะครับ ระยะเวลาการทำประมาณ 3 ชั่วโมง ความรู้สึกคือเกร็งๆ เสียวๆตึงๆบ้าง ตอนแรกที่เอาระอองน้ำพ่นเข้าไปรู้สึกเสียวๆหวิวๆนิดหน่อยเหมือนมีอะไรวิ่งอยู่ในท้อง พอตอนดูดไขมันก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บ แต่ง่วงนอนเพราะคุณหมอเปิดเพลงช้าๆกล่อมเรา บวกกับทำไปเกือบๆ 3 ชั่วโมง ตาผมนี่จะปิดเลยครับ แต่ผมพอใจกับผลที่ออกมามากนะ คือมันเห็นชัดดี ไม่ต้องมานั่งรอ ช่วยให้มี 6 แพ็กง่ายขึ้นด้วย เหมาะกับคนไม่มีเวลา ดื้อยาอย่างผมคุ้มเงินที่จ่ายนะครับ สรุป ฟินครับ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ ทั้งหมดนี้เป็นรีวิวจริงจากผม ผมอยากแบ่งปันประสบการณ์และอยากขอบคุณการบริการที่น่ารักของทีมงานของคุณหมอที่ Wisdom Shape รวมถึงบริษัท เทคนิคอลไบโอเมด ที่ผมได้โทรไปแต่แรกด้วย ทำให้ผมได้กลับมามีความมั่นใจขึ้นเยอะเลย หลังจากนี้ผมเองก็จะพยายามออกกำลังกาย และควบคุมอาหารให้ดีขึ้นด้วย ไหนๆพุงก็หายไปเยอะละ ยังไงมันก็ต้องง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนแน่นอน
ขอบคุณทุกคนคับที่ติดตามมาจนจบสวัสดีครับ
 
แก้ไขล่าสุดเมื่อ:
ด้านบน ด้านล่าง