ทำปากบางกับคุณหมอบุ๊ง Masterpiece Clinie

jeambeam

สมาชิกใหม่
สมัครเมื่อ
23 กรกฎาคม 2015
โพสต์
4
สวัสดีครับ คือผมเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องรูปปากมาก เพราะเป็นคนมีริมฝีปากหนาทั้งบนและล่าง(หนามากจริงๆ) ทำให้เวลาถูกถ่ายภาพทีเผลอ หน้าจะออกมาแย่มากเกิดความไม่มั่นใจเวลาจะพูดพรีเซนต์งาน หรือพบเจอคนใหม่ๆ
หลังจากหาข้อมูลอยู่นาน ก็ตัดสินใจลองพบคุณหมอที่ Masterpiece Clinic คลินิกอยู่สยามสแควร์ ตรงข้ามมาบุญคลอง เดินทางง่ายมาก และผลงานศัลยกรรมของที่นี่น่าพอใจมาก พอถึงวันนัด เข้ามาในคลีนิคอย่างแรกที่รู้สึกได้คือพี่ๆพนักงานดูแลเราดีมากครับ คุณหมอผู้ดูแลเคสของผมคือคุณหมอบุ๊ง เริ่มแรกก็บอกถึงปัญหาและเอารูปทรงปากที่อยากได้ให้คุณหมอดู คุณหมออธิบายดีมากครับ เข้าใจง่าย และแนะนำสิ่งที่เหมาะสมกับใบหน้าของเราที่สุด เลยไม่ลังเลตกลงนัดวันทำเลย ซึ่งช่วงนั้นทำวิทยานิพนธ์กำลังจะเรียนจบ กังวลว่าปากจะหายไม่ทันพรีเซนต์งาน แต่คุณหมอบอกว่า 2 สัปดาห์หายทันแน่นอน
อาจจะดูไม่ค่อยได้ แต่อยากให้โฟกัสที่ปากอย่างเดียวพอ555
ผมทำปากทั้งหมด 2 ครั้ง มาดูกันเลย...
Day 01 Before.jpg
Day 01 Before2.jpg
อันนี้เป็นรูปก่อนทำ จะเห็นว่าหนามาก และไม่เป็นทรง
Day 01.jpg
หลังจากทำความสะอาดใบหน้าเรียบร้อยแล้ว คุณหมอบุ๊งจะขอคุยอีกครั้งก่อนทำ คุณหมอแนะนำว่า ไม่ให้เอาออกมากเพราะถ้าเอาออกมากเกินแล้วเราไม่ชอบ มันเอากลับมาไม่ได้ แล้วถ้ายังไม่ชอบค่อยมาให้หมอดูใหม่ ผมก็เห็นด้วย จากนั้นก็วาดปาก บรรยากาศในห้องผ่าตัดสบายๆมากครับ มีเพลงฟังชิวๆ ไม่เกร็งเท่าไร
จากนั้นก็ฉีดยาชา อันนี้เจ็บ เลยใช้วิธีการท่อง ในใจท่องรัวๆว่า “กระจอกมากๆ อกหักยังเจ็บกว่านี่อีก” พูดเป็นร้อยๆรอบในใจ มันก็ช่วยนะในความรู้สึก555 พอฉีดเสร็จหมอก็นวดๆที่ปากแล้วถามว่าเจ็บมั้ย? แน่นอนผมเป็นเด็กมีมารยาทเลยตอบว่า ไม่เจ็บครับ... หมอบุ๊งเลยพูดว่า “เอาจริงๆเจ็บมั้ย?” ผมเลยบอกว่าเจ็บแต่ท่องในใจว่ากระจอกมากๆ คุณหมอหัวเราะเลยบอกว่าเดี๋ยวให้คนไข้คนอื่นทำบ้าง
หลังจากนั้นคุณหมอก็เริ่ม...เออไม่รู้สึกอะไรเลยเลยแฮะ หลังจากนอนฟังเพลงนิ่งๆให้คุณหมอจัดการปากไป อยู่ดีๆก็มีกลิ่นเหมือนคนเผากุ้ง...แต่ไม่ใช่ คือว่าคุณหมอกำลังทำให้แผลมันประกบกันด้วยไฟฟ้า(มั้งนะ)555 จากนั้นก็เย็บๆ เสร็จแล้วก็ให้เราดูกระจก หมอบอกผมนอนนิ่งมาก พยาบาลก็พาไปประคบเย็น และให้รางวัลเป็นแมสปิดปาก 1 อันกับถุงยาดีไซน์สวยงาม
Day 01_2.jpg
Day 02.jpg
Day 03.jpg
Day 03_2.jpg
Day 04.jpg
Day 08.jpg
ช่วงนี้ห้ามหัวเราะเลยเพราะเลือดจะออก นั่งดูน้ำตากามเทพแบบเงียบๆ... หัวเราะแค่ หึหึ...พอใจล่ะ
วันที่ 8 วันนัดตัดไหม(ครบสัปดาห์พอดี กินยาครบทุกมื้อ) อาการช้ำจางลง ปากลอก ทำให้ได้ปากสีชมพู555
Day 15.jpg
วันที่ 15 คือมันบางลงจริง แต่มันก็ยังหนาอยู่ดี เพราะเป็นคนมีต้นทุนสูง(ปากหนามาก555) เลยมีความคิดที่ว่า งั้นเอาใหม่ทำข้างบนให้บางอีก
ติดตามตอนต่อไป...ภาค 2 กับการทำปากบางข้างบนนะครับ
 

jeambeam

สมาชิกใหม่
สมัครเมื่อ
23 กรกฎาคม 2015
โพสต์
4
Before.jpg Day 01.jpg Day 01_2.jpg
ครั้งที่ 2 นี่ห่างจากที่ทำครั้งแรกประมาณ 2 เดือน เพราะต้องรอให้ปากมันหายบวมแน่นอนก่อน ขั้นตอนเหมือนเดิม มีการปิ้งย่างกุ้งในห้องเหมือนเดิม พี่พนักงานยังบริการได้ดีเหมือนเดิม
ครั้งนี้บอกคุณหมอว่า เอาข้างบนออกเยอะๆหน่อยเพราะว่าต้นทุนมีเยอะ คุณหมอจัดเต็มแต่ก็ไม่เต็มเกินไปเพราะบอกว่าไม่ตัดให้มากเกินนะกลัวปากหาย555
พอกลับมาบ้าน เปิดปากดูเท่านั้นแหละ...เห้ย...ครั้งนี้สวยชัว!!
ครั้งนี่ต่างจากครั้งแรกตรงที่สามารถกินข้าวได้ 2 จาน ไม่ต้องหยอดโจ๊กแล้วเพราะไม่ได้ทำปากล่าง 5555
และรอยช้ำน้อยมาก ไม่กี่วันหายเลย
Day 02.jpg
Day 03.jpg
Day 07.jpg
Day 09.jpg Day 10.jpg Day 10_2.jpg Before after all.jpg
วันที่ 10 แล้ว ผลเป็นที่น่าพอใจมากครับ ผมรู้สึกพอใจกับทรงปากตอนนี้มีกครับ เป็นธรรมชาติ และไม่บางเกินไป ต้องขอบคุณคุณหมอบุ๊ง คุณหมอเส พี่พนักงาน พี่พยาบาลที่ทุกคนให้การดูแลผมอย่างดีตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาใช้บริการ
ขอฝากไว้สำหรับคนที่คิดจะศัลยกรรม อยากให้ต้องดูจุดประสงค์ของเราให้ดีก่อนว่าเราทำเพื่ออะไร ของเดิมมันดีอยู่แล้วหรือเปล่า เพราะถ้าทำแล้วเราต้องยอมรับผลที่จะตามมาให้ได้ ดังนั้นอยากให้ศึกษาให้ดีเลือกคุณหมอที่ไว้ใจได้เท่านั้น เพราะมันคือใบหน้า ขอบคุณครับ
 

iya

สมาชิกโดดเด่น
สมัครเมื่อ
14 กรกฎาคม 2015
โพสต์
8
ทรงสวยกำลังดีค่ะ
 

freshnight

Junior Member
Staff Member
สมัครเมื่อ
30 สิงหาคม 2013
โพสต์
1,838
แบบนี้สวยเลยครับ

ไม่บางไป ไม่กระจับเกิน

เป็นธรรมชาติ กำลังดี ดูดีขึ้นมากเลยครับ
 

jeambeam

สมาชิกใหม่
สมัครเมื่อ
23 กรกฎาคม 2015
โพสต์
4
แบบนี้สวยเลยครับ

ไม่บางไป ไม่กระจับเกิน

เป็นธรรมชาติ กำลังดี ดูดีขึ้นมากเลยครับ
รู้สึกดีขึ้นมากเลยคับ ไม่บางจนรู้ว่าทำด้วย
 
ด้านบน ด้านล่าง