namwan_mtp
สมาชิกโดดเด่น
- สมัครเมื่อ
- 3 มีนาคม 2017
- โพสต์
- 25
สวัสดี อันยองนะคะทุกคน 5555555555 เราชื่อน้ำหวานค่ะ ทำงานเป็นพนักงานCS ที่คลินิกเสริมความงาม มาสเตอร์พีซ ครั้งนี้เราได้ทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นที่คลินิกของตัวเองนี่แหละ จะบอกว่าผลลัพธ์ออกมาเกาหลี โอปป้าเห็นแล้วยังต้องสบตา
เริ่มเลย เราเป็นคนที่มีตาสองชั้นหลบใน ทำให้ดูเหมือนตาชั้นเดียว แล้วแต่อารมณ์ของมันค่ะ บางวันก็ชั้นเดียวไปเลย บางวันก็สองชั้นข้างนึง ซึ่งตอนแรกก็ยังไม่มีแพลนว่าจะทำตา 2 ชั้นจริงๆ จังๆ จนกระทั่งได้เข้ามาทำงานเป็นพนักงานดูแลลูกค้าแล้วเราต้องแต่งหน้าแต่งตา การที่ชั้นตาเรามันขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่นอน เท่ากันบ้างไม่เท่ากันบ้าง มันทำให้แต่งหน้ายากมากกกกกกกกกกกก ซึ่งการแก้ไขปัญหาของเราก็เหมือนสาวๆ ทั่วไปค่ะ ติดสติ๊กเกอร์ตา 2 ชั้น
ตัวนี้เลยค่ะ ของ Daiso ที่ใช้ประจำ 60 บาท ใช้ง่าย แต่แต่งหน้าแล้วไม่รอดจีจี (ยืมรูปจากกูเกิ้ลค่าhttps://www.google.co.th/url?sa=i&rct=j&q=&esrc=s&source=images&cd=&ved=0ahUKEwjWqeO397nSAhWEo5QKHYx5CzMQjxwIAw&url=http://www.imgrum.net/user/daisothailand/1358469356/823067929171204032_1358469356&psig=AFQjCNF_So77sudowfg7ZZpZeuAfdRhB2A&ust=1488616681024385)
เหมือนจะโอเคนะสำหรับการติดสติ๊กเกอร์ตาในช่วงแรกๆ กำลังเห่อแต่งหน้าค่ะ จะยุ่งยากแค่ไหนชั้นก็ไม่มายด์ค่ะ แต่พอนานวันเข้าไปรู้สึกถึงความยุ่งยากของเจ้าสติ๊กเกอร์ เพราะบางวันนางก็ไม่อยู่กับร่องกับรอย หลุดบ่อยมาก ที่สำคัญเลยเวลาจะแต่งตาเป็นอะไรที่ยากมากกกกก มันดูโป๊ะ เลยตัดสินใจเลือกทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นไปเลยดีกว่า ซึ่ง ด้วยคลินิกของเราเองที่เด่นด้านนี้ และด้วยความที่เราได้เห็นลูกค้าเข้ามาทำ ได้เห็นผลงาน อันนี้ไม่ได้อวยนะคะ แต่ที่นี่จะมีการทำตา 2 ชั้นแบบหลายวิธีมากๆ เหมือนที่เกาหลีเลยค่ะ เย็บเอย เลเซอร์เอย เปิดหัวตา หางตาเอย จัดไขมันเปลือกตาเอย คือครบเลยแหละ จำได้ว่าประมาณต้นเดือนกันยายนเราก็ลงคิวขอนัดปรึกษากับคุณหมอบุ๊ง แล้วก็ได้ทำอีก 2 วันถัดไปค่ะ ซึ่งเทคนิคที่คุณหมอจะเลือกให้จะเป็นการใช้เทคนิคใหม่ ซึ่งเทคนิคนี้จะบวมช้ำน้อย เหมาะกับเราที่ไม่มีเวลาพักฟื้น เพราะไม่ได้ลางานเลยค่ะ ผ่าตัดเสร็จวันรุ่นขึ้นก็จะเข้ามาทำงานปกติ ซึ่งคุณหมอเข้าใจตรงนี้ และผลลัพธ์จะได้ชั้นตาที่ดูหนาแบบธรรมชาติ ไม่สูงเกินไป สไตล์โคเรีย เกาหลี k-pop อย่างที่เราชอบค่ะ ส่วนตัวไม่ชอบหนาๆ สูงๆ แบบฝรั่ง ไม่เข้ากับเบ้าหน้าแน่ๆ 555 (คุณหมอจะถามระหว่างปรึกษานะคะว่าอยากได้ชั้นตาประมาณไหน และใช้เครื่องมือทำชั้นตาเทียมให้เราดูด้วย เก๋กู๊ดค่ะ)
ข้ามมาวันทำตาเลยนะคะ รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะวันนี้กลายมาเป็นลูกค้าเองละ 55555 ถึงคลินิกประมาณ 10 โมงค่ะ มาถึงก็ทำเอกสาร จ่ายเงิน ถ่ายรูปก่อนทำ แล้วก็ขึ้นไปเตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัด พอเตรียมตัวเสร็จจะได้พูดคุยกับคุณหมออีก 1 รอบค่ะ (วันนี้เราปริ๊นท์รูปนางแบบในดวงใจมาให้คุณหมอดูด้วยค่ะ ฮยอนอา 4minute ใครติ่งน่าจะรู้จัก ชอบตานางมากกกกกก)
ชั้นตาของฮยอนอาจะไม่หนาเว่อร์ ดูเป็นธรรมชาติมาก ชอบอ่ะ >< (ยืมภาพจาก https://www.google.co.th/search?q=สติ๊กเกอร์ตา+2+daiso&espv=2&biw=1498&bih=990&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwi3rpWz97nSAhUDopQKHRCoC1EQ_AUIBigB#tbm=isch&q=hyuna+eyes&*)
พูดคุยกับคุณหมอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาเข้าไปรอในห้องผ่าตัดค่ะ เป็นครั้งแรกทีได้เห็นเครื่องมือแพทย์แบบใกล้ๆ จนโดนแซวเพราะตัวแอบสั่นค่ะ พยาบาลก็จะให้นอนหงายรอบนเตียงแล้วเช็ดหน้าก่อน 1 รอบ แล้วก็ตามด้วยน้ำยาหยอดตา 2 ข้างค่ะ จะแสบตานิดนึง แล้วก็ทาเบตาดีนฆ่าเชื้อ จากนั้นคุณหมอก็เข้ามาเตรียมตัว จะบอกว่าตลอดการผ่าตัดจะมีเจ็บแค่ครั้งเดียว ก็คือตอนฉีดยาชานี่แหละ แต่ถือว่าคุณหมอมือเบามาก ตอนจิ้มเข็มเข้ามาแทบไม่รู้สึกอะไรค่ะ จะจี๊ดตอนยาไหลผ่านเข้ามาแปล๊บๆ แล้วก็ชาไปทั่วดวงตา ไม่รู้สึกอะไรแล้ว หลังจากนั้นก็ปล่อยให้คุณหมอทำไปแบบเงียบๆ ไม่กล้าถามอะไรค่ะเพราะกลัวหมอเสียสมาธิ ฟังเพลงที่เปิดคลอไปเพลินๆ แต่หลับไม่ได้นะเพราะต้องคอยหลับตาลืมตาให้คุณหมอเป็นระยะๆ
การทำตา 2 ชั้นของเราใช้เวลาเกือบๆ 1 ชั่วโมงค่ะ หลังทำยังไม่มีอาการบวมใดๆ ทั้งสิ้น มารู้สึกว่าบวมอีกทีนึงก็ตอนดึกๆ ซึ่งตรงนี้เรารู้ตัวเองอยู่แล้วว่าจะบวมเลยเตรียมการพร้อมอย่างดี กลับไปถึงบ้านก็ประคบเย็นเบาๆ ด้วยคูลแพ็คค่ะ สามารถประคบได้แต่ห้ามกดแรงเด็ดขาด เราประคบเย็นถึงวันที่ 3 (วันที่ 3 จะเป็นวันที่บวมสุด) พอเข้าวันที่ 4 ก็เริ่มประคบอุ่นค่ะ เราใช้ไข่ต้มปลอกเปลือกประคบครั้งละ 10 – 15 นาที เช้าเย็น จะแอบลำบากนิดนึงตรงที่มันหายอุ่นไว เดี๋ยวลงรูปให้ดูเรียงวันกันเลยนะคะ
ก่อนทำศัลยกรรม
เริ่มเลย เราเป็นคนที่มีตาสองชั้นหลบใน ทำให้ดูเหมือนตาชั้นเดียว แล้วแต่อารมณ์ของมันค่ะ บางวันก็ชั้นเดียวไปเลย บางวันก็สองชั้นข้างนึง ซึ่งตอนแรกก็ยังไม่มีแพลนว่าจะทำตา 2 ชั้นจริงๆ จังๆ จนกระทั่งได้เข้ามาทำงานเป็นพนักงานดูแลลูกค้าแล้วเราต้องแต่งหน้าแต่งตา การที่ชั้นตาเรามันขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่นอน เท่ากันบ้างไม่เท่ากันบ้าง มันทำให้แต่งหน้ายากมากกกกกกกกกกกก ซึ่งการแก้ไขปัญหาของเราก็เหมือนสาวๆ ทั่วไปค่ะ ติดสติ๊กเกอร์ตา 2 ชั้น
ตัวนี้เลยค่ะ ของ Daiso ที่ใช้ประจำ 60 บาท ใช้ง่าย แต่แต่งหน้าแล้วไม่รอดจีจี (ยืมรูปจากกูเกิ้ลค่าhttps://www.google.co.th/url?sa=i&rct=j&q=&esrc=s&source=images&cd=&ved=0ahUKEwjWqeO397nSAhWEo5QKHYx5CzMQjxwIAw&url=http://www.imgrum.net/user/daisothailand/1358469356/823067929171204032_1358469356&psig=AFQjCNF_So77sudowfg7ZZpZeuAfdRhB2A&ust=1488616681024385)
เหมือนจะโอเคนะสำหรับการติดสติ๊กเกอร์ตาในช่วงแรกๆ กำลังเห่อแต่งหน้าค่ะ จะยุ่งยากแค่ไหนชั้นก็ไม่มายด์ค่ะ แต่พอนานวันเข้าไปรู้สึกถึงความยุ่งยากของเจ้าสติ๊กเกอร์ เพราะบางวันนางก็ไม่อยู่กับร่องกับรอย หลุดบ่อยมาก ที่สำคัญเลยเวลาจะแต่งตาเป็นอะไรที่ยากมากกกกก มันดูโป๊ะ เลยตัดสินใจเลือกทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นไปเลยดีกว่า ซึ่ง ด้วยคลินิกของเราเองที่เด่นด้านนี้ และด้วยความที่เราได้เห็นลูกค้าเข้ามาทำ ได้เห็นผลงาน อันนี้ไม่ได้อวยนะคะ แต่ที่นี่จะมีการทำตา 2 ชั้นแบบหลายวิธีมากๆ เหมือนที่เกาหลีเลยค่ะ เย็บเอย เลเซอร์เอย เปิดหัวตา หางตาเอย จัดไขมันเปลือกตาเอย คือครบเลยแหละ จำได้ว่าประมาณต้นเดือนกันยายนเราก็ลงคิวขอนัดปรึกษากับคุณหมอบุ๊ง แล้วก็ได้ทำอีก 2 วันถัดไปค่ะ ซึ่งเทคนิคที่คุณหมอจะเลือกให้จะเป็นการใช้เทคนิคใหม่ ซึ่งเทคนิคนี้จะบวมช้ำน้อย เหมาะกับเราที่ไม่มีเวลาพักฟื้น เพราะไม่ได้ลางานเลยค่ะ ผ่าตัดเสร็จวันรุ่นขึ้นก็จะเข้ามาทำงานปกติ ซึ่งคุณหมอเข้าใจตรงนี้ และผลลัพธ์จะได้ชั้นตาที่ดูหนาแบบธรรมชาติ ไม่สูงเกินไป สไตล์โคเรีย เกาหลี k-pop อย่างที่เราชอบค่ะ ส่วนตัวไม่ชอบหนาๆ สูงๆ แบบฝรั่ง ไม่เข้ากับเบ้าหน้าแน่ๆ 555 (คุณหมอจะถามระหว่างปรึกษานะคะว่าอยากได้ชั้นตาประมาณไหน และใช้เครื่องมือทำชั้นตาเทียมให้เราดูด้วย เก๋กู๊ดค่ะ)
ข้ามมาวันทำตาเลยนะคะ รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะวันนี้กลายมาเป็นลูกค้าเองละ 55555 ถึงคลินิกประมาณ 10 โมงค่ะ มาถึงก็ทำเอกสาร จ่ายเงิน ถ่ายรูปก่อนทำ แล้วก็ขึ้นไปเตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัด พอเตรียมตัวเสร็จจะได้พูดคุยกับคุณหมออีก 1 รอบค่ะ (วันนี้เราปริ๊นท์รูปนางแบบในดวงใจมาให้คุณหมอดูด้วยค่ะ ฮยอนอา 4minute ใครติ่งน่าจะรู้จัก ชอบตานางมากกกกกก)
ชั้นตาของฮยอนอาจะไม่หนาเว่อร์ ดูเป็นธรรมชาติมาก ชอบอ่ะ >< (ยืมภาพจาก https://www.google.co.th/search?q=สติ๊กเกอร์ตา+2+daiso&espv=2&biw=1498&bih=990&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwi3rpWz97nSAhUDopQKHRCoC1EQ_AUIBigB#tbm=isch&q=hyuna+eyes&*)
พูดคุยกับคุณหมอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาเข้าไปรอในห้องผ่าตัดค่ะ เป็นครั้งแรกทีได้เห็นเครื่องมือแพทย์แบบใกล้ๆ จนโดนแซวเพราะตัวแอบสั่นค่ะ พยาบาลก็จะให้นอนหงายรอบนเตียงแล้วเช็ดหน้าก่อน 1 รอบ แล้วก็ตามด้วยน้ำยาหยอดตา 2 ข้างค่ะ จะแสบตานิดนึง แล้วก็ทาเบตาดีนฆ่าเชื้อ จากนั้นคุณหมอก็เข้ามาเตรียมตัว จะบอกว่าตลอดการผ่าตัดจะมีเจ็บแค่ครั้งเดียว ก็คือตอนฉีดยาชานี่แหละ แต่ถือว่าคุณหมอมือเบามาก ตอนจิ้มเข็มเข้ามาแทบไม่รู้สึกอะไรค่ะ จะจี๊ดตอนยาไหลผ่านเข้ามาแปล๊บๆ แล้วก็ชาไปทั่วดวงตา ไม่รู้สึกอะไรแล้ว หลังจากนั้นก็ปล่อยให้คุณหมอทำไปแบบเงียบๆ ไม่กล้าถามอะไรค่ะเพราะกลัวหมอเสียสมาธิ ฟังเพลงที่เปิดคลอไปเพลินๆ แต่หลับไม่ได้นะเพราะต้องคอยหลับตาลืมตาให้คุณหมอเป็นระยะๆ
การทำตา 2 ชั้นของเราใช้เวลาเกือบๆ 1 ชั่วโมงค่ะ หลังทำยังไม่มีอาการบวมใดๆ ทั้งสิ้น มารู้สึกว่าบวมอีกทีนึงก็ตอนดึกๆ ซึ่งตรงนี้เรารู้ตัวเองอยู่แล้วว่าจะบวมเลยเตรียมการพร้อมอย่างดี กลับไปถึงบ้านก็ประคบเย็นเบาๆ ด้วยคูลแพ็คค่ะ สามารถประคบได้แต่ห้ามกดแรงเด็ดขาด เราประคบเย็นถึงวันที่ 3 (วันที่ 3 จะเป็นวันที่บวมสุด) พอเข้าวันที่ 4 ก็เริ่มประคบอุ่นค่ะ เราใช้ไข่ต้มปลอกเปลือกประคบครั้งละ 10 – 15 นาที เช้าเย็น จะแอบลำบากนิดนึงตรงที่มันหายอุ่นไว เดี๋ยวลงรูปให้ดูเรียงวันกันเลยนะคะ
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก
- หน้าเด็กกว่าเดิมด้วยการยกคิ้วนะคะ